EP.327 รีวิว เออร์บาโน่ ราชวิถี Urbano Rajavithi คอนโดพร้อมอยู่วิวแม่น้ำเจ้าพระยา
Written by Gift Pannida
สวัสดีผู้อ่าน Condonayoo ทุกคนค่าา วันนี้ทีมงานเราจะขอพาไปชมทำเลของโครงการคอนโดใหม่บนเส้นราชวิถี Urbano ราชวิถี จาก พฤกษา เรียลเอสเตท ตั้งอยู่ติดถนนราชวิถีฝั่งขาเข้า แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพฯ
เดินทางเข้าออกเมืองสะดวก ใกล้สะพานซังฮี้ ใกล้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีสิรินธร ระยะทาง 350 เมตร
ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบสูง ใกล้ร้านอาหาร, ตลาดกรุงธน, Mini Big C ใกล้รร.เขมมะสิริอนุสรณ์, รร.ทิวไผ่งาม และไม่ไกลจาก พาต้า, Central ปิ่นเกล้า, รพ.วชิรพยาบาล, รพ.เจ้าพระยา
เออร์บาโน่ ราชวิถี เป็นคอนโด High Rise สูง 25 ชั้น จำนวน 323 ยูนิต และร้านค้า 2 ยูนิต บนที่ดิน 1-3-1.8 ไร่ พร้อมวิว Panoramic แม่น้ำเจ้าพระยา, สะพานกรุงธนฯ และฝั่งพระนคร มีแบบห้องให้เลือก 3 แบบ คือ 1 Bedroom 1 Bathroom ขนาด 30.00 ตร.ม., 2 Bedroom 1 Bathroom ขนาด 47.00 – 47.50 ตร.ม. และ2 Bedroom 2 Bathroom ขนาด 64.50 ตร.ม. โครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ 2562
สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ Residents Lobby, Infinity Edge pool with Relaxing Deck, Cubic Hub, Sky Gym, Sky Lounge with Panoramic View of Chao Phraya River, Rooftop Garden, Sauna Room แยกชาย หญิง พร้อมระบบรักษาความปลอดภัย CCTV + 24 Hour Security และ Access card Control ขายแบบ Fully Fitted พร้อม Wallpaper และเครื่องปรับอากาศ ในราคาเริ่มต้น 3.2 ล้านบาท
ส่วนรายละเอียดอื่นๆจะเป็นอย่างไรนั้น ติดตามอ่านต่อด้านล่างกันได้เลยค่ะ
ชื่อโครงการ | เออร์บาโน่ ราชวิถี Urbano Rajavithi |
เจ้าของโครงการ | บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) |
เนื้อที่ทั้งหมด | 1-3-1.8 ไร่ |
จำนวนตึก | 1 อาคาร |
จำนวนชั้น | 25 ชั้น ส่วนกลาง 3 ชั้น |
จำนวนห้อง | – ห้องพักอาศัย : 323 ยูนิต – ร้านค้า : 2 ยูนิต |
ลักษณะห้องและขนาดห้อง | – 1 Bedroom : 30.00 ตร.ม. – 2 Bedrooms : 47.00-47.50 ตร.ม. – 2 Bedrooms : 64.50 ตร.ม. |
ที่จอดรถทั้งหมด | คิดเป็น 50% ไม่รวมจอดซ้อนคัน |
โซน | ราชวิถี |
ขนส่งสาธารณะ |
|
รถโดยสารที่ผ่าน | รถเมล์สาย 18, 28ร, 66, 110ร, 125ร, 539ร |
ที่ตั้ง | ติดถนนราชวิถี แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพฯ 10700 |
กำหนดการ | n/a |
ปีที่สร้างเสร็จ | สร้างเสร็จพร้อมอยู่ 2562 |
ราคา | เริ่มต้น 3.2 ล้านบาท |
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม | ประมาณ 123,000 บาท/ตร.ม. |
ค่าส่วนกลางและกองทุน |
|
สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
โรงพยาบาล
สถานที่ราชการ และอื่นๆ
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
จุดเด่นของโครงการ | “Urbano ราชวิถี” คอนโด High Rise 25 ชั้น เปิดรับวิวแม่น้ำเจ้าพระยา และสะพานกรุงธน ห้องพักจำนวน 325 ยูนิต 1 Bedroom ขนาดเริ่มต้น 30.00 ตร.ม. และ 2 Bedrooms ขนาดเริ่มต้น 64.5 ตร.ม. บนทำเลศักยภาพ โซนราชวิถี เดินทางสะดวกสบาย ใกล้รถไฟฟ้า สถานีสิรินธร เพียง 350 เมตร ราคาเริ่มต้นเพียง 3.2 ล้านบาท |
ที่ตั้งโครงการ
ติดถนนราชวิถี แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพฯ 10700
พิกัด : 13.783756, 100.497052
แผนที่จากทางโครงการค่ะ
โครงการ Urbano ราชวิถี เป็นโครงการคอนโด High Rise สูง 27 ชั้น จำนวน 325 ยูนิต ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ราชวีถี ฝั่งมุ่งหน้าอนุสาวรีย์ ใกล้แยกบางพลัดและรถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อนในอนาคต บรรยากาศโดยรวมของย่านนี้ค่อนข้างคึกคัก เพราะเป็นแหล่งชุมชน เห็นได้จากการที่มีทั้งโรงเรียนเขมะสิริอนุสรณ์และวัดภคินีนาถวรวิหาร ทำให้ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบค่อนข้างสูง แต่ไม่วอแววุ่นวาย เหมาะกับการอยู่อาศัยค่ะ
การเดินทางด้วยรถยนต์ ของโครงการนี้ถือว่าสะดวกสบายเลยค่ะ เพราะตัวโครงการตั้งอยู่ติดกับถนนราชวิถี ซึ่งเป็นถนนเส้นหลักเชื่อมมาตั้งแต่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิจนถึงถนนสิรินธร และตัวถนนราชวิถีเองก็สามารถเชื่อมกับถนนเส้นอื่นๆได้หลายสายทั้งถนนเส้นหลักและถนนเส้นย่อยๆ เช่น ถนนกำแพงเพชร, ถนนสวรรคโลก, ถนนสุโขทัย, ถนนศรีอยุธยา, ถนนสามเสน, ถนนราชดำเนินนอก, ถนนจรัญสนิทวงศ์, ถนนบรมราชชนนี เป็นต้น ทำให้เรามีทางเลือกที่หลากหลายในการเดินทางไปยังที่ต่างๆ แต่เนื่องจากเป็นถนนเส้นหลักที่ต้องใช้ในการเข้าออกเมืองไปทางฝั่งศาลายา และระว่างทางก็มีสถาณที่สำคัญมากมาย ทำให้ปริมาณรถค่อนข้างหนาแน่น โดยเฉพาะช่วงอนุสาวรีย์, สวนสัตว์ดุสิต, มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต/สวนสุนันทา ในช่วงเวลาเร่งด่วนรถจะติดมากและยังไม่มีทางด่วนใกล้ๆโครงการด้วยค่ะ
สำหรับจุดขึ้นทางด่วนที่ใกล้โครงการที่สุด จะต้องขับมาทางอนุสาวรีย์ เพื่อขึ้นทางด่วนศรีรัช โดยจุดที่ใกล้ที่สุดจะเป็นจุดขึ้นทางด่วนศรีรัชฝั่งมุ่งหน้าไปปากเกร็ด โดยจะมีระยะทางจากโครงการประมาณ 5.4 กม. ใช้เวดาเดินทางประมาณ 15 – 25 นาที แล้วแต่ช่วงเวลาค่ะ
สำหรับจุดขึ้นทางด่วนศรีรัชฝั่งมุ่งหน้าสาทรจะมีระยะจากโครงการประมาณ 5.6 – 6.3 กม. ใช้เวลาเดนทางประมาณ 20 – 30 นาทีค่ะ
แผนผังจุดขึ้นทางด่วนน่ารักๆจากทางโครงการค่ะ
ถนนและแยกที่สำคัญรอบๆโครงการ
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ ปัจจุบันก็สะดวกพอประมาณ โดยถ้าจะไปไกลๆและอยากได้ความสะดวกหน่อยก็ต้องใช้บริการ Taxi ซึ่งสามารถเรียกได้ที่หน้าโครงการเลยค่ะ หรือถ้าอยากใช้บริการรถเมล์ก็จะต้องเดินออกมาอีกหน่อย ระยะทางประมาณ 100 เมตร จะมีรถเมล์ฝั่งมุ่งหน้าไปทางอนุสาวรีย์ จะมีรถเมล์สาย 18, 28ร, 66, 110ร, 125ร, 539ร หรือถ้าข้ามมาฝั่งตรงข้าม ระยะทางประมาณ 250 เมตร จะมีรถเมล์ฝั่งมุ่งหน้าไปถนนสิรินธร สาย 18, 28ร, 66, 110ร, 125ร, 539ร และ 515 ที่วิ่งไปพุทธมณฑล ยาวไปถึงมหิดลศาลายาเลยค่ะ
และในอนาคตการเดินทางด้วยรถสาธารณะจะสะดวกขึ้นอีก โดยจะมีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน บางซื่อ – ท่าพระ วิ่งผ่านเส้นจรัญสนิทวงศ์ โดยสถานีที่ใกล้โครงการที่สุด คือสถานีสิรินธร ซึ่งห่างจากโครงการเพียงแค่ 350 เมตร เท่านั้น และตอนนี้ตัวสถานีก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว รอเดินระบบและคาดว่าจะพร้อมใช้งานประมาณเดือนกันยายน ปีนี้ (2562) ค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์ของโครงการนี้ ถือว่าสูง เหมาะกับการดำรงชีวิตประจำวันมากๆค่ะ เพราะแค่เดินออกมาจากโครงการมาทางฝั่งขวามือก็มีร้านอาหารหลากหลายร้านตั้งอยู่ มีทั้งร้านก๋วยเตี๋ยว, ร้านซาลาเปาทับหลี และอื่นๆอีก 2 – 3 ร้าน ฝั่งตรงข้ามก็มีทั้ง Mini BigC และตลาดกรุงธนที่อยู่ใกล้โครงการมาก โดยมีระยะทางประมาณ 200 – 300 เมตร จากโครงการเท่านั้น สามารถเดินมาซื้อของสด ทั้งเนื้อหมู ไก่ และผักผลไม้ หรือจะเป็นพวกอาหารพร้อมทานก็มี แต่จะเป็นแบบรถเข็นริมทางค่ะ
ในระยะที่ไกลจากโครงการมีอีกหน่อย ที่ฝั่งตรงข้ามก็จะมีทั้งร้าน Bakery และร้านอาหารอีกหลายร้านรวมไปถึงร้านขายส่งจำพวกรับสกรีนเสื้อผ้าและขายส่งอุปกรณ์เบเกอรี และที่ทำการไปรษณีย์ก็มีค่ะ
ส่วนห้างใหญ่ๆที่อยู่ในละแวกนี้ก็จะมีห้างดั้งเดิมที่ใครๆก็จะรู้จักกันดี คือห้างพาต้า และห้างใหม่กว่าอีกหน่อยจะเป็น Central ปิ่นเกล้า โดยทั้ง 2 ห้างจะตั้งอยู่ไม่ไกลจากโครงการเท่าไหร่ ระยะประมาณ 3 – 5 กม. สามารถขับรถมาหรือนั่ง Taxi มาได้สบายๆ แต่รถอาจจะติดนิดนึงนะคะ
สถานที่สำคัญรอบๆโครงการ
ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
โรงพยาบาล
สถานที่ราชการ และอื่นๆ
การเดินทาง
การเดินทางในวันนี้เราจะเริ่มต้นบนถนนราชวิถี บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ตรงไปตามถนนราชวิถีฝั่งมุ่งหน้าฝั่งธน ข้ามสะพานกรุงธนฯ มายังฝั่งธนฯแล้วขับชิดเลนซ้ายไว้ กลับรถใต้สะพานข้ามแยกบางพลัดแล้วชิดซ้ายไว้ ขับตรงมาอีกหน่อยก็จะถึงที่ตั้งโครงการแล้วค่า
สรุปการเดินทาง ถนนราชวิถี > สะพานกรุงธนฯ > ถนนราชวิถี > กลับรถใต้สะพานข้ามแยกบางพลัด > Urbano ราชวิถี
ขับมาเรื่อยๆจะเห็นป้ายบอกทางไปสะพานกรุงธนฯ เราก็ขับตรงตามป้าย และพยายามขับอยู่ในเลนขวาไว้นะคะ เพราะเดี๋ยวเราจะต้องขับขึ้นสะพานข้ามแยกตึกชัยที่เลนขวาค่ะ
ตรงต่อมาเรื่อยๆขึ้นสะพานข้ามแยกตึกชัย
ลงจากสะพานมาเราก็ขับตรงกันต่อไปค่ะ
ตรงมาเรื่อยๆจะถึงแยกราชวิถี จากแยกนี้เราสามารถเลี้ยวซ้ายเพื่อไปเข้าถนนศรีอยุธยาและถนนพิษณุโลกได้ หรือถ้าเลี้ยวขวาก็สามารถไปถนนเตชะวณิชและถนนประดิพัทธ์ ส่วนเรายังขับตรงผ่านแยกไปเลยค่ะ
ตรงมาเรื่อยๆถึงแยกการเรือนสามารถเลี้ยวซ้ายไปถนนศรีอยุธยา และทางขวาสามารถไปถนนสุโขทัย เราขับตรงผ่านแยกไปค่ะ
ผ่านมหาวิทยาลัยสวนดุสิตทางซ้าย
ผ่านแยกกรุงธนฯ เราสามารถเลี้ยวซ้ายเพื่อไปถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า และเลี้ยวขวาไปถนนประชาราษฎร์ได้
ขับตรงต่อมาเรื่อยๆ ตามป้ายสะพานกรุงธนบุรี เราจะผ่าน Market Place ดุสิต ทางขวามือ
ข้ามสะพานกรุงธนฯ ค่ะ
ลงมาจากสะพานเราก็ข้ามมาฝั่งธนฯแล้วให้เราขับเข้าเลนซ้ายไว้นะคะ บรรยากาศแถวนี้มีความเป็นชุมชนค่อนข้างสูง โดยจะมีซอยเข้าวัดภคินีนาถวรวิหารทางซ้ายมือ
เราขับชิดซ้ายมาเรื่อยๆ (ไม่ขึ้นสะพานข้ามแยกนะคะ) เราจะเห็น Mini BigC และตลาดกรุงธน ทางซ้าย
ขับตรงมาอีกหน่อยเราก็กลับรถใต้สะพานค่ะ
ตรงมาอีกหน่อยเดียวก็จะถึงที่ตั้งโครงการ Urbano ราชวิถี แล้วค่าา
รอบๆโครงการ
หน้าโครงการจะติดกับถนนราชวิถี มองตรงไปจะเป็นสะพานข้ามแยกบางพลัด
มองไปทางด้านขวาจะเป็นเส้นที่เรากลับรถมาเมื่อสักครู่
ติดกับโครงการเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น
มีเปิดเป็นร้านรวงต่างๆ เช่น คลินิกโรคผิวหนัง
หน้าคลินิกมีคิวพี่วินพร้อมป้ายค่าบริการชัดเจน
ร้านอาหารก็มีร้านเตี๋ยวกะข้าว
ถัดมาเป็นร้านเสริมสวย, ร้านขายของชำ
บริเวณแยกบางพลัดตอนนี้เราจะเห็นตัวสถานีสิรินธรที่ใกล้จะเปิดให้บริการปลายปีนี้แล้วค่ะ
กลับมาที่ตัวโครงการ เราลองเดินไปดูทางฝั่งซ้ายมือกันบ้าง ฟุตบาทหน้าโครงการทำใหม่แล้วกว้าขวาง เดินสะดวกค่ะ
ติดกับโครงการเป็นอพาร์ทเมนท์ สูง 8 ชั้น
ด้านล่างพาร์ทเมนท์จะมีร้านเสริมสวยและร้านตัดผมชาย
ถัดมาเป็นปั๊ม LPG
เดินต่อมาอีกหน่อย จะเห็นว่าริมถนนจะมีอาคารพาณิชย์ทั้ง 2 ฝั่งถนน ที่เปิดเป็นร้านรวงต่างๆ โดยถ้าดูตามความอุดมสมบูรณ์จำพวกของที่ใช้ดำรงในชีวิตประจำวันจะอยู่ที่ฝั่งตรงข้ามมากกว่าฝั่งนี้ ซึ่งเราก็สามารถข้ามฝั่งไปได้ด้วยสะพานข้ามฟากที่เห็นค่ะ
ติดกับสะพานข้ามฟากจะมีปั๊มน้ำมัน PT
หน้าปั๊มน้ำมันจะมีป้ายรถเมล์จุดที่ใกล้โครงการที่สุดค่ะ
และมีคิวพี่วินคอยให้บริการ
เราลองข้ามฝั่งมาดูอีกด้านกันบ้าง ขึ้นมาบนสะพานมองไปฝั่งราชวิถีมุ่งหน้าอนุสาวรีย์ จะเห็นว่าแถวนี้จะเป็นถนนฝั่งละ 4 เลน และบรรยากาศโดยรวมของแถบนี้จะเป็นอาคารพาณิชย์แบบในรูปค่ะ
ลงมาจากสะพานปุ๊ป เราก็จะเจอร้านเบเกอรี่ ติดกันเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเล็กๆ และร้านขายของชำ
ถัดมาเป็นไปรษณีย์
และโรงเรียนเขมะ สิริอนุสรณ์
นอกจากนั้นยังมีพวกร้านรับงานปัก สกรีนเสื้อ และร้านขายส่งอุปกรณ์เบเกอรี่
ถัดมาเป็นธนาคารกสิกรสาขาใหญ่
ถัดมาเป็นป้ายรถเมล์อีกฝั่ง จุดนี้ก็จะเป็น ป้ายรถเมล์ที่ใกล้โครงการที่สุดของฝั่งตรงข้าม
เดินมาดูอีกหน่อยจะเห็น Mini BigC และตลาดกรุงธน
บรรยากาศริมฟุตบาทบริเวณตลาดและหน้า Mini BigC
Mini Big C ด้านหลัง
หน้าตลาดจะมีของขายเยอะแยะตลอดทางเลยค่ะ
ส่วนตัวตลาดจริงๆจะถัดเข้ามาด้านในอีกหน่อยค่ะ
ภายในตัวตลาดจะมีของสดต่างๆขาย โดยตลาดเริ่มขายตั้งแต่ตี 5 เป็นต้นไป ขายเรื่อยๆจนถึงเย็นค่ะ
ตัวโครงการ
โครงการ Urbano ราชวิถี เป็นโครงการคอนโด High Rise สูง 25 ชั้น จำนวนยูนิตพักอาศัย 323 ยูนิต และยูนิต ร้านค้า 2 ยูนิต บนที่ดินประมาณ 1-3-1.8 ไร่ ที่จอดรถ 50% ไม่รวมจอดซ้อนคัน ซึ่งจะอยู่ที่ชั้น 1 – 7 เป็นที่จอดรถในร่มทั้งหมดค่ะ
ตัวผังโครงการชั้น 1 จะเห็นว่ามีทางเข้าออกโครงการเพียงทางเดียวคือจากทางหน้าโครงการ โดยบริเวณทางเข้าโครงการจะมีป้อมรปภ. ที่จะมีรปภ. ประจำตลอด 24 ชม. เมื่อเข้ามาในโครงการจะเจอถนนหลัก รถสามารถวิ่งสวนกันได้รอบโครงการ มีที่จอดรถชั้น 1 อยู่บริเวณด้านหน้าและด้านหลังโครงการอยู่ประมาณ 14 ช่องจอด และทางขึ้นที่จอดรถจะอยู่ด้านหลังอาคารค่ะ
ส่วนฟังก์ชั่นอื่นๆในตัวอาคารจะมี Shop หน้าอาคาร 2 ยูนิต ซึ่งตรงนี้จะต้องเดินมาเข้าจากหน้าโครงการเท่านั้น ไม่มีประตูเชื่อมต่อมาจากในอาคารนะ ส่วนภายในอาคารเราเข้ามาจะเจอกับ Main Lobby ก่อน จาก Lobby จะสามารถเข้าไปเช็คจดหมายได้ที่ห้อง Mail Room ติดกับ Mail Room จะเป็นห้องของนิติ ส่วนโถงลิฟท์จะอยู่ติดกับ Lobby อีกด้านค่ะ
มาดูบรรยากาศตัวโครงการของจริงกันต่อเลยค่ะ เริ่มจากหน้าโครงการมีทางเข้าติดถนนราชวิถี แยกทางเข้า-ออกรถทางซ้ายมือ
ติดกันทางขวามือเป็นทางเข้าสำหรับคนเดิน เป็นซุ้มประตูระแนง ข้างๆเป็นป้ายชื่อโครงการสี Copper บนรั้วเหล็กซี่สีดำ ด้านหลังเป็นพุ่มไม้ช่วยให้บรรยากาศดูสบายตามากขึ้นค่ะ
กลับมาที่ทางเข้ารถ ที่นี่จะมีป้อมรปภ.ติดทางเข้า พร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.
เข้ามาจะเจอรั้วกั้นไม้กระดก แยกฝั่งเข้า-ออก
สำหรับลูกบ้านสามารถขับรถผ่านเข้าไปด้านในได้เลย โดยใช้ระบบ Easy Pass พร้อมติดกล้อง CCTV ฝั่งละ 1 ตัว ส่วน Visitor จะต้องแลกบัตรก่อนเข้าโครงการ
ส่วนทางขวามือจะกั้นไว้ สำหรับคนเดินเข้าโครงการก็สามารถเข้า Lobby ได้เลยค่ะ
พอเราผ่านรั้วกั้นไม้กระดกเข้ามา จะเจอสวนหย่อม เป็นพื้นที่โล่งๆ ลงหญ้าและต้นไม้ไว้โดยรอบ
ถนนภายในโครงการเป็นแบบวิ่งสวนกันค่ะ ส่วนรั้วรอบโครงการจะลงไม้พุ่มไว้ให้แน่นๆ ส่วนต้นไม้ก็เริ่มโตให้ร่มเงาแล้ว
เข้ามาถึงทางเข้าที่จอดรถจะมีเจ้าหน้าที่ประจำอีก 1 จุด
สำหรับที่จอดรถในอาคารจะแยกทางเข้า – ออก พร้อมรั้วกั้นไม้กระดกรักษาความปลอดภัยให้อีกชั้น
แต่ละฝั่งจะใช้ระบบ Easy Pass ในการเข้า-ออก เหมือนทางเข้าหน้าโครงการ พร้อมติดกล้อง CCTV ไว้ฝั่งละ 1 ตัว
ภายในที่จอดรถจะเปิดโล่ง อากาศถ่ายเทดี
จากที่จอดรถจะมีทางเดินเชื่อมเข้าไปยังโถงลิฟต์ โดยที่ชั้น P2 จะมีส่วนของห้อง Laundry ไว้ให้บริการด้วยค่ะ เป็นห้องแรกทางขวามือ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ลงเครื่องซักผ้ามาให้ เราเลยยังไม่ได้เก็บภาพมาให้ดูนะ
สำหรับทางเข้าโถงลิฟต์ จะต้องใช้คีย์การ์ดแตะเพื่อเข้าไปด้านใน
ส่วนขาออกจะมีปุ่มกดเพื่อปลดล็อคค่ะ
ภายในโถงลิฟต์ทำออกมาดูดีเลยค่ะ พร้อมมีช่องแสงเพื่อช่วยระบายอากาศ มีลิฟต์โดยสาร 3 ตัว
ส่วน Service Lift จะแยกอยู่ห้องข้างๆกันค่ะ
กลับมาที่ถนนภายในโครงการ รั้วฝั่งนี้เป็นรั้วทึบ
ถนนด้านหน้าเชื่อมไปยัง Lobby
ด้านหน้าจะมียูนิตร้านค้า 2 ห้อง ที่ตอนนี้ใช้เป็นสำนักงานขายและนิติฯค่ะ
มาถึงทางเข้าส่วน Lobby เป็นประตูประจก ด้านบนทำเป็นชายคายื่นออกมาพร้อมติดไฟดาวน์ไลท์หลายดวง ถ้าเปิดตอนกลางคืนน่าจะสวยเลยค่ะ
เข้ามาภายใน Lobby ส่วนแรกจะเจอเป็นพื้นที่นั่งรอ จัดชุดโต๊ะเก้าอี้เป็นคู่ๆ มาให้ 3 ชุด
ทางขวามือจะเชื่อมไปยังเคาน์เตอร์เจ้าหน้าที่ สำหรับลูกบ้านที่ต้องการติดต่อนิติฯหรือต้องการปล่อยเช่าก็สามารถมาติดต่อได้ที่เคาน์เตอร์ตรงนี้ค่ะ
ถัดเข้ามาจากเคาน์เตอร์จะเป็นห้อง Mail Room ทางซ้ายมือ ส่วนประตูด้านในจะเชื่อมออกไปที่ Service Lift และงานระบบ
ภายใน Mail Room ทำออกมาสวยดีค่ะ แบ่งเป็นช่องๆตามห้องภายในโครงการ
อีกฝั่งของ Lobby จะเป็นพื้นที่นั่งพักผ่อนและเชื่อมไปยังโถงลิฟต์หลัก
โถง Lobby หลักจัดชุดโซฟามา 6 – 7 ที่นั่ง ทำออกมาน่าใช้งานดีค่ะ ฝ้าเพดานสูง กระจกสูงรอบด้าน ใช้โทนสีช่วยให้ดูหรูมากขึ้น
ถัดเข้ามาด้านในเป็นโถงลิฟต์
ติดกับโถงลิฟต์จะเป็นห้องน้ำรับรองของส่วน Lobby
ด้านในแบ่งแยกห้องน้ำชาย – หญิง และห้องน้ำสำหรับคนพิการ ผนังด้านนึงตกแต่งด้วยกระจกเงา
ภายในห้องน้ำสำหรับคนพิการจัดอุปกรณ์มาตามมาตรฐาน พื้นที่กว้างขวาง ใช้งานได้สะดวก
ภายในห้องน้ำชาย จะแยกอ่างล้างมือ, โถปัสสาวะชาย ไว้ด้านนอก ส่วนห้องส้วมจะแยกไว้ด้านใน
ภายในห้องส้วมติดตั้งสุขภัณฑ์มาให้ครบตามมาตรฐาน
ภายในห้องน้ำหญิงก็แยกพื้นที่ส่วนแห้ง ส่วนเปียกเหมือนกันค่ะ
ภายในห้องส้วม
เข้ามาดูภายในโถงลิฟต์กันบ้าง บริเวณโถงลิฟต์นี้จะใช้ระบบรักษาความปลอดภัยโดยใช้ Key Card Access เข้าสู่โถงลิฟต์ค่ะ
ภายในโถงลิฟต์จะมีลิฟต์โดยสารทั้งหมด 3 ตัว
พร้อมจอสำหรับแจ้งข่าวสารติดตั้งไว้ให้บริเวณโถงลิฟต์ด้วย
ภายในตัวลิฟต์โดยสารก็ทำออกมาสวยค่ะ มีราวจับรอบ และติดตั้งกล้อง CCTV ไว้ให้ 1 ตัว
ใช้ลิฟต์ของ KONE รับน้ำหนักได้ 1,000 กก. หรือประมาณ 13 คน
ผังโครงการชั้น 8 – 24 จะเป็นชั้นพักอาศัยทั้งหมด แต่ละชั้นจะมี 19 ยูนิต โดยทุกชั้นส่วนใหญ่จะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom ส่วนห้องแบบ 2 Bedroom จะมีชั้นละ 4 ห้องเท่านั้น โดยทั้ง 4 ห้องจะเป็นห้องมุม ส่วนห้องที่ได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยาจะมี 2 ห้องเท่านั้นเป็นห้องหัวมุม 2D และ 2D-1 : 2Bedroom (64.5Sq.m.)
โถงลิฟต์ในชั้นพักอาศัยกรุผนังด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนสีดำ มีเลขที่ชั้นติดไว้ทุกชั้น และมีช่องแสง 1 บาน ช่วยระบายอากาศภายในโถงทางเดินค่ะ
บรรยากาศภายในโถงทางเดิน วางผังแบบ Double Corridor
ส่วนชั้น 25 จะเป็นส่วนของ Facility หลักทั้งหมด ได้แก่ สระว่ายน้ำ Infinity Edge Pool with Relaxing Deck, Cubic Hub (Multipurpose area) ซึ่งเป็นอีกจุดเด่นของโครงการ, Sky Lounge วิวเมือง, Sky Gym เป็นห้อง Fitness วิวเมือง, Sauna Room และ Rooftop Garden
โถงลิฟต์ในชั้นส่วนกลางจะตกแต่งมาหรูกว่าชั้นพักอาศัย โดยเพิ่มกรอบประตูลิฟต์เป็นสีทอง พื้นและฝ้าเพดานด้วยวัสดุลายไม้ และความสูงฝ้าเพดานที่ชั้นส่วนกลางจะสูงกว่าชั้นอื่นๆด้วย
จากโถงลิฟต์จะเป็นทางเดินเช่ือมไปยัง Cubic Hub, ห้องน้ำ และส่วนกลางภายนอก
เดินออกมาจากโถงลิฟต์ ส่วนแรกที่เราเจอจะเป็น Cubic Hub เป็นห้องอเนกประสงค์ ผนังรอบห้องใช้กระจกใสความสูงจรดฝ้าเลย ทำให้พื้นที่ส่วนกลางดูหรู และโปร่งสบายค่ะ
ภายในห้องจะจัดชุดโต๊ะนั่งทำงานขนาด 6 ที่นั่ง พร้อมจอทีวีมาให้ ตรงนี้เราสามารถใช้นั่งนัดนั่งคุยงานได้เลยค่ะ
ส่วนอีกฝั่งจะจัดเป็นโซฟาตัวใหญ่กลางห้อง ไว้นั่งพักผ่อน เล่นโทรศัพท์ ชมวิวเมืองชิลล์ๆ
ติดกับห้อง Cubic Hub จะมีสวนด้านนอกด้วย ถ้าเรานั่งอยู่ในห้องก็จะเห็นพื้นที่สีเขียวช่วยผ่อนคลายสายตา และถ้าออกมายืนที่สวนก็จะสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยค่ะ
ออกมาจากห้อง Cubic Hub ก็จะเป็นทางเดินเชื่อมไปยังห้องน้ำรับรองทางซ้ายมือ และเชื่อมออกไปยังส่วนกลางด้านนอกค่ะ
ห้องน้ำส่วนกลางแยกชาย หญิง และห้องน้ำสำหรับคนพิการ
ภายในห้องน้ำคนพิการกว้างขวาง ติดตั้งอุปกรณ์ราวจับมาให้ครบ รองรับการใช้งานทั้งผู้สูงอายุและพิการ
เข้ามาดูในห้องน้ำฝั่งผู้หญิง งานตกแต่งห้องน้ำส่วนกลางก็ทำออกมาสวยดูดีค่ะ ใช้โทนสีเทาเข้ม
พื้นที่ส่วนแห้งมีอ่างล้างมือติดตั้งมาให้ 2 อ่าง พร้อมกระจกเงาบานยาว ด้านในมีห้องน้ำ 2 ห้อง, ห้องอาบน้ำ 1 ห้อง และห้องซาวน่า 1 ห้อง
ภายในห้องน้ำติดตั้งสุขภัณฑ์มาให้ครบชุด ด้านหลังติดกระจกเงาไว้ให้ด้วย
ห้องอาบน้ำและห้องซาวน่าจะอยู่ด้านใน
ภายในห้องอาบน้ำใช้ฝักบัว Rain Shower + Hand Shower
ภายในห้อง Sauna
เข้ามาดูภายในห้องน้ำฝั่งผู้ชายบ้าง ตกแต่งมาเหมือนๆกันค่ะ ฝั่งซ้ายมือเป็นโซนห้องอาบน้ำและห้อง Sauna
อีกด้านนึงแบ่งเป็นอ่างล้างมือ 2 อ่าง
ติดกันเป็นโถปัสสาวะชาย
และห้องน้ำ 1 ห้อง
ห้องอาบน้ำและห้อง Sauna อย่างละ 1 ห้อง
ภายในห้องอาบน้ำ
และภายในห้อง Sauna
ออกมายังส่วนกลางภายนอกจะเจอพื้นที่เปิดโล่ง และทางเดินเชื่อมไปจนถึงสระว่ายน้ำ
ฝั่งขวามือเป็นสวนหย่อม พื้นปูหญ้า และลงไม้พุ่มไว้ให้รอบๆ
ราวกันตกเป็นกระจกบางส่วน สามารถมองเห็นวิวเมืองด้านล่างได้
ฝั่งซ้ายมือเป็นบันไดเชื่อมขึ้นไปชั้น Rooftop
ขยับมาอีกหน่อยจะมีสวนทางซ้ายมือ
ภายในสวนทำเป็นขั้นๆไล่ระดับ เป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจอีกจุดในพื้นที่ส่วนกลาง
ติดกับสวนหย่อมจะเป็นพื้นของโซนสระว่ายน้ำแล้วค่ะ ส่วนแรกจะเป็น Pool Deck
แยกห้องล้างตัวก่อนลงสระไว้ทางซ้ายมือ
ด้านในมีฝักบัวล้างตัว 2 ชุด
อีกฝั่งเป็นบันไดขึ้นชั้นบน ซึ่งจะเป็นส่วนของฟิตเนสและ Sky Lounge
ติดกับ Pool Deck เป็นสระน้ำตื้นๆ ลง Sunbed ไว้ให้ 4 ตัว นั่งพักได้สบายๆ ไม่ร้อนแดด
สำหรับตัวสระจะเป็นสระระบบเกลือแบบ Infinity Edge Pool
ขอบสระระบบน้ำล้น รอบๆสระมีทางเดินคั่นระหว่างตัวสระกับราวกันตกของอาคาร
ตัวสระจะเป็นรูปตัว L อ้วนๆ มี Pool Deck 2 จุด คือตรงที่วาง Sunbed ที่เราดูกันมาเมื่อกี๊ กับ Pool Deck ฝั่งซ้ายของรูป
มุมจาก Pool Deck อีกฝั่งค่ะ สามารถมองเห็นวิวโค้งน้ำเจ้าพระยาและวิวเมืองฝั่งพระนครโดยรอบ
เราขึ้นไปดูส่วนกลางชั้นบนกันต่อ
ขึ้นมาปุ๊ปจะเจอทางเดินแยกเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งซ้ายเป็นห้องฟิตเนส และฝั่งขวาเป็น Sky Lounge เดี๋ยวเราเข้าไปดูในห้อง Sky Lounge กันก่อนค่ะ
ภายใน Sky Lounge ทำมาสวย น่าใช้งานค่ะ รอบห้องเป็นกระจกทั้ง 3 ด้าน มองเห็นวิวรอบๆอาคารจากมุมสูงได้เต็มๆ
ฟังก์ชั่นในส่วนนี้จะจัดชุดโซฟาใหญ่ๆมาให้หลายชุดเลยค่ะ เหมาะกับการนั่งคุยงานกันในบรรยากาศสบายๆ หรือมานั่งเล่นชมวิวเมืองเฉยๆก็ได้
พร้อมมีบาร์เตรียมเครื่องดื่มให้ใช้งานครบครัน
นอกจากชุดโซฟาแล้วก็จะมีเป็นโต๊ะและเก้าอี้บาร์ เผื่อใครมาคนเดียว ในขณะที่มีคนใช้งาน Sky Lounge อยู่หลายๆคน ก็สามารถแยกนั่งได้
ถัดมา เราไปดูในห้องฟิตเนสกันต่อค่ะ
ในส่วนของห้องฟิตเนสก็จะเน้นช่องแสงรอบห้อง เพื่อให้ได้มองเห็นวิวรอบๆเช่นกัน โดยผนังรอบห้องทั้ง 3 ฝั่งจะเป็นกระจกใส มองเห็นวิวด้านนอก
และอีกฝั่งจะทำมาให้เป็นกระจกเงาเต็มผนัง ทำให้ห้องดูโปร่งขึ้น และยังสามารถใช้เช็คฟอร์มท่าทางออกกำลังกายได้ด้วย
ส่วนอุปกรณ์ก็จัดมาให้อย่างครบครัน ทั้งเครื่องสำหรับคาดิโอและเวทเทรนนิ่ง โดยเครื่องออกกำลังกายที่จัดมาให้จะมีดัมเบลคละน้ำหนัก 20 ชิ้น พร้อมเบาะปรับระดับได้ ส่วนพื้นปูเป็นยางกันกระแทกรับน้ำหนักได้ดี
จักรยานไฟฟ้า 2 เครื่อง
Leg Extension 1 เครื่อง
Chest Press Machine 1 เครื่อง
Lat Pull Down Machine 1 เครื่อง
ลู่วิ่งไฟฟ้า 4 ลู่
เครื่อง Eliptical 1 เครื่อง
และบนชั้น Rooftop ก็จะจัดเป็นสวนแยก 3 จุดค่ะ ลักษณะสวนก็จะลงหญ้า ลงไม้พุ่มมาให้ เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว
พื้นที่อเนกประสงค์เป็นลานโล่ง 1 จุด
สวนอีกจุดค่ะ
สวนจุดที่ 3
แบบห้อง
ห้องโครงการนี้ขายแบบ Fully Fitted ได้ชุดครัวครบชุดและสุขภัณฑ์ครบชุดพร้อม Shower Box ความสูงฝ้าเพดาน 2.8 เมตร ยกเว้นที่ชั้น 24 จะมีคามสูงใ้าเพดาน 3 เมตรค่ะ โดยแบบห้องในโครงกนี้หลักๆจะมี 3 แบบ คือ
ห้องแบบ 1 Bedroom ฟังก์ชั่นภายในห้องเมื่อเข้ามาจะเจอกับห้องนั่งเล่นก่อน จากห้องนั่งเล่นจะสามารถเข้าไปในส่วนของห้องน้ำรับรองและห้องครัวได้ โดยครัวที่ได้จะได้เป็นครัวปิดค่ะ ส่วนห้องนอนจะใช้วิธีกั้นห้องด้วยประตูบานเลื่อนกระจกใส ทำให้สามารถแยกห้องให้เป็นสัดส่วนได้ โดยที่ห้องนั่งเล่นไม่ดูแคบลงค่ะ
ห้องแบบ 2 Bedrooms 1 Bathroom ฟังก์ชั่นในห้องจะเหมือนๆกับแบบ 1A แต่จะเพิ่มห้องนอนขึ้นมา 1 ห้องเท่านั้น และตำแหน่งฟังก์ชั่นต่างๆจะขึ้นอยู่กับตำแหน่งห้องที่วางในอาคารค่ะ
ห้องแบบ 2 Bedrooms 2 Bathroom ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดจากทุกแบบ โดยห้องนี้จะมีชั้นละ 2 ห้องเท่านั้น ตำแหน่งของห้องนี้จะอยู่ที่มุมของแต่ละชั้น ได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยาค่ะ ส่วนความแตกต่างจากห้องแบบอื่นๆคือ ภายในห้อง Master Bedroom จะมีห้องน้ำในตัว และส่วนทานอาหารกับห้องนั่งเล่นจะมีพื้นที่เพิ่มขึ้น ทำให้สามารถจัดฟังก์ชั่นแยกเป็นสัดส่วนได้มากกว่าค่ะ
ห้องตัวอย่าง
วันนี้เราจะพาชมห้องตัวอย่าง 2 แบบ คือ
ห้องตัวอย่างแบบแรกที่เราจะพาชม เป็นห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 30.00 ตร.ม. แปลนห้องส่วนแรกจะเป็นพื้นที่ Living Area รวมพื้นที่ห้องนั่งเล่นและพื้นที่ทานอาหาร จาก Living Area จะมีประตูกั้นแยกไปยังส่วนห้องนอนและห้องครัว
โดยประตูห้องนอนจะได้เป็นประตูบานสไลดืบานใหญ่ ทำให้ห้องดูโปร่ง จากห้องนอนจะเชื่อมกับระเบียงภายนอก ส่วนห้องครัวจะกั้นเป็นครัวปิด มีพื้นที่เชื่อมกับห้องน้ำและระเบียงภายนอกเช่นกัน ช่วยในการระบายอากาศและกลิ่นอาหารค่ะ
มาดูห้องของจริงกันเลย เริ่มจากประตูทางเข้าห้องได้เป็นบานทึบ ปิดผิวลามิเนตลายไม้ มือจับก้านโยก
พื้นห้องปูด้วยลามิเนต ลายไม้สีอ่อน หนา 12 มม. พื้นห้องยกตัวสูงขึ้นมาประมาณ 4 ซม.
เข้ามาในห้องฝ้าเพดานสูงประมาณ 2.7 เมตร ฟังก์ชั่นส่วนแรกที่เราเจอจะเป็น Living Area มองตรงไปเป็นห้องนอน และทางขวามือเป็นประตูเชื่อมไปยังห้องครัวค่ะ
มาดูทางฝั่งห้องนั่งเล่นกันก่อน โดยที่พื้นที่ส่วนนี้จะแบ่งเป็นพื้นที่ของ Living Area และห้องทานอาหาร
ไฟในห้องได้เป็นไฟดาวน์ไลท์ทั้งห้อง
ติดกับโซฟาจะเป็นพื้นที่ทานอาหาร สามารถวางโต๊ะทานอาหารขนาดประมาณ 2 ที่นั่งได้แบบพอดิบพอดี
มาดูในส่วน Living Area จะสามารถวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่งมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งขนาดพื้นที่หลังจากวางโซฟาลงไปแล้วก็พอดีๆ เหลือพื้นที่ข้างโซฟานิดหน่อย
ฝั่งตรงข้ามโซฟาจัดเป็นตู้วางทีวี และตู้เก็บของ ส่วนประตูทางซ้ายมือที่เราเห็นจะเป็นทางเข้าไปส่วนครัวและห้องน้ำรับรองค่ะ
ระยะดูทีวีเหลือประมาณ 2.20 เมตร สามารถวางทีวีขนาดได้ถึง 55″ ได้ระยะดูทีวีที่สบายตา
ไปดูในส่วนของห้องนอนกันต่อ โดยห้องนอนจะถูกกั้นพื้นที่ด้วยประตูบานเลื่อนกระจกใสแบบ 3 ตอนทำให้ พื้นที่ที่ถูกแบ่งจะได้ความเป็นสัดส่วนโดยที่ไม่ทำให้รู้สึกว่าพื้นที่แคบลงค่ะ
ภายในห้องนอนจะมีช่องแสง 1 จุด เป็นประตูบานเลื่อนเดี่ยว ที่เชื่อมออกไปยังระเบียงด้านนอกนอก เนื่องจากประตูที่ได้เป็นบานเลื่อนกระจกใสสีชา ทำให้ภายในห้องนอนรวมไปถึงห้องนั่งเล่นได้แสงธรรมชาติเข้ามาในห้องจากจุดนี้เป็นหลักด้วยค่ะ
ทางโครงการวางเตียงขนาดควีนไซส์มาให้ดูเป็นตัวอย่าง
ความเสี่ยงที่เหลือฝั่งซ้ายจะเหลือประมาณ 30 ซม. พอให้เดินแทรกเข้าไปเปลี่ยนผ้าปูที่นอนได้ส่วนพื้นที่ข้างเตียงฝั่งขวาจะเหลือประมาณ 50 ซม. สามารถใช้วางโต๊ะหัวเตียงเล็กๆได้ 1 ชุด
ฝั่งปลายเตียงจัดเป็นตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะเขียนหนังสือมาให้ดูเป็นตัวอย่าง
หลังจากวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งลงไปแล้ว ระยะปลายเตียงจะเหลือประมาณ 90 เซนติเมตร ถือว่าค่อนข้างกว้างสามารถเดินผ่านไปมาได้สะดวก
ประตูที่เชื่อมระเบียงด้านนอกจะได้เป็นประตูบานเลื่อนคู่ บานกรอบอลูมิเนียมสีชา กระจกใสสีออกดำ พร้อมหน้าต่างบานฟิกซ์ ประกบทั้งสองด้าน
มือจับประตูแบบเซาะร่องพร้อมตัวล็อคหน้าตามาตรฐาน
ราวกันตกได้เป็นเหล็กซี่ทำสีดำ และเนื่องจากระเบียงค่อนข้างยาว เราจึงสามารถจะหาไม้กระถางเล็กๆมาปลูกได้ ในกรณีที่มีพื้นที่เหลือจากวางราวตากผ้าแล้วนะคะ
ระเบียงกว้างประมาณ 60 เซนติเมตร ยาวประมาณ 2.45 เมตร ขนาดความกว้างพอให้วางราวตากผ้าได้ แต่ไม่สามารถจะวางโต๊ะหรือเก้าอี้ได้แล้วค่ะ
ถัดมาเราจะไปดูส่วนของห้องครัวกันต่อ โดยครัวที่ได้จะได้เป็นครัวปิด เราไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นเวลาทำอาหารค่ะ โดยประตูที่เชื่อมระหว่าง 2 พื้นที่จะได้เป็นประตูบานเลื่อน บานกรอบอลูมิเนียมสีชา กระจกใส
มือจับประตูครัวแบบเซาะร่อง ไม่มีตัวล็อค
พื้นห้องครัวจะปูกระเบื้องแกรนิตโต้ มีตัวจบลามิเนตกั้นไว้ให้เรียบร้อย
เข้ามาในครัวจะเห็นพื้นที่เชื่อมต่อออกไปยังระเบียงภายนอก และชุดเคาน์เตอร์ครัว โดยชุดครัวทั้งชุดนี้ทางโครงการจะติดตั้งมาให้ด้วย มีชุดเคาน์เตอร์ตัวล่างและตัวบน ด้านข้างเคาน์เตอร์ครัวจะเหลือพื้นที่ให้วางตู้เย็นค่ะค่ะ
มาดูเคาน์เตอร์ครัวชิ้นล่างกันก่อน จะได้ซิงค์ล้างจานและเตาไฟฟ้าแบบ 2 หัว พื้นที่ด้านหลังเคาน์เตอร์ติดผนังกระจกมาให้เพื่อป้องกันคราบอาหาร หรือคราบน้ำมันกระเด็นไปติด การติดผนังมาให้แบบนี้จะช่วยให้ทำความสะอาดง่ายขึ้นค่ะ
ซิงค์ล้างจานเป็นทรงสี่เหลี่ยม พร้อมก๊อกน้ำ ขนาดค่อนข้างกว้าง และเตาไฟฟ้า 2 หัวของ Franke
ด้านล่างติดตั้งเตาไมโครเวฟ ยี่ห้อ FRANKE มาให้ด้วย
เคาน์เตอร์ด้านล่างจะแบ่งเป็นตู้เก็บของใต้ซิงค์ล้างจาน 1 ช่อง, ที่วางไมโครเวฟ 1 ช่องและลิ้นชักสำหรับเก็บของจุกจิกอีก 2 ชั้น
ตู้เก็บของด้านบนจะมีทั้งหมด 3 ชุด 2 ตู้ทางขวาเป็นตู้แบบบานเปิดตู้ใบขวาสุดเหนือที่วางตู้เย็นจะเป็นตู้โล่งๆ ตู้ใบกลางจะแบ่งป็นชั้นๆให้ 3 ชั้น บานเปิดตู้ทุกบานเป็นแบบ Soft Close
พื้นที่สำหรับยืนทำอาหารมีระยะพอดีๆ สามารถยืนทำครัวได้สะดวกค่ะ
จากพื้นที่ห้องครัวจะสามารถเชื่อมต่อไปยังส่วนของระเบียงภายนอกได้ โดยจะได้ประตูที่กั้นระหว่าง 2 พื้นที่เป็นประตูบานเลื่อนบานกรอบอลูมิเนียมสีชา กระจกใสสีออกดำนิดนึงค่ะ
พื้นที่ระเบียงขนาดประมาณ 1.1 x 1.4 เมตร สามารถติดตั้งเครื่องซักผ้าตามแบบห้องตัวอย่างได้ หลังวางเครื่องซุกผ้าลงไปแล้วจะเหลือพื้นที่อีกประมาณ 1.1 x 4.7 เมตร พอให้ออกมายืนเก็บผ้าจากเครื่องซักผ้าได้หรือจะว่างราวตากผ้าเล็กๆก็พอได้อยู่ค่ะ
พื้นที่ระเบียงภายนอกจะมีราวกันตกเป็นเหล็กแผ่นสีดำ พร้อมตกแต่งกริลล์เพิ่ม เพื่อบังสายตาจากคอมเพรสเซอร์แอร์ด้วยค่ะ
กลับเข้ามาด้านในห้องครัวอีกครั้ง ติดกับพื้นที่ครัวอีกด้านหนึ่งจะเป็นส่วนของห้องน้ำรับรอง
ภายในห้องน้ำมีฟังชั่นครบ แยกส่วนเปียกส่วนแห้งออกจากกัน ตกแต่งด้วยโทนสีเทาสไตล์โมเดิร์น พื้นห้องน้ำลดระดับลงไปประมาณ 4 ซม. ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้สีครีมๆ
อ่างล้างมือใช้ของ American Standard พร้อมก๊อกน้ำแบบปรับอุณหภูมิได้ ขนาดอ่างค่อนข้างกว้างพอสมควร
เคาน์เตอร์ใต้อ่างทำเป็นตู้เก็บของ พร้อมติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนมาให้พร้อมใช้งาน
ติดกับอ่างล้างมือจะเป็นส่วนของโถสุขภัณฑ์พร้อมสายชำระและที่วางกระดาษชำระของ American Standard ระยะติดตั้งพอดีๆ สามารถใช้งานได้สะดวก
สายชำระทรงเหลี่ยมขนาดกะทัดรัด
ส่วนพื้นที่อาบน้ำจะได้ Shower Box ตั้งอมาให้เป็นสัดเป็นส่วน ช่วยให้เวลาอาบน้ำ น้ำจะไม่กระเซ็นออกมาพื้นที่ด้านนอก และตัว Shower Box ที่ได้จะเป็นบานเปิดออกมาด้านนอก
มือจับประตูของ Shower Box ภายนอกเป็นแท่งเหล็กยาวจับถนัดมือ ส่วนมือจับด้านในจะเป็นปุ่มยื่นออกมา 2 ปุ่มเล็กๆ จับไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่
ภายในห้องอาบน้ำจะได้ฝักบัวอาบน้ำแบบ Rain Shower และ Hand Shower แบบปรับระดับได้ ของ Grohe ด้านหลังฝักบัวอาบน้ำจะมีบ่าวางของ สามารถใช้วางขวดแชมพูหรือสบู่ขวดเล็กๆได้
ห้องอาบน้ำขนาดประมาณ 75 x 90 ซม. ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้สีดำ และพื้นลดระดับลงไปประมาณ 2.5 ซม.
สวิทช์และปล๊กไฟใช้ของ Panasonic สีดำ หน้าตาโมเดิร์น
เข้ามาในห้องจะเจอกับพื้นที่กว้างๆ ฝั่งซ้ายมือจะเป็นส่วนของ Living Area และ Master Bedroom ส่วนขวามือจะเป็นพื้นที่ห้องครัว, ห้องน้ำ และห้องนอนรอง ตรงกลางจะเป็นโถงอเนกประสงค์ยาวเชื่อมต่อไปยังระเบียงด้านนอก
ด้านหลังบานประตูมีติดตั้งตัว Stopper มาให้ เพื่อกันประตูกระแทกผนัง
มาดูส่วนของ Living Area ทางซ้ายมือกันก่อนค่ะ พื้นที่ส่วนนี้จะถูกแยกออกมาค่อนข้างเป็นสัดส่วน
ทางโครงการจัดโซฟาขนาด 3 ที่นั่งมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งเมื่อลองวางลงไปแล้วจะเห็นว่ามีขนาดพอดีกับผนังด้านหลังเป๊ะๆ เพราะฉะนั้นถ้าใครอยากจะจัดโซฟาตัวใหญ่กว่านี้ ก็อาจจะต้องลองปรับเปลี่ยนมุมในการวางหรือต้องลองใช้เป็นโซฟา L Shape ดูก็ได้ แต่อาจจะทำให้ห้องนั่งเล่นดูอึดอัดไปหน่อยค่ะ
ฝั่งตรงข้ามจัดเป็นตู้ลอยสำหรับวางทีวีและยังมีพื้นที่เหลือด้านข้างสำหรับทำในตู้เก็บของได้อีกค่ะ
ระยะดูทีวีประมาณ 1.30 เมตร สามารถวางทีวีขนาดไม่เกิน 32″ จะได้ระยะดูทีวีที่เหมาะสมสบายตา
ฝั่งขวามือของห้องนั่งเล่นจะเป็นส่วนของห้องครัวและพื้นที่ทานอาหาร โดยครัวที่ได้ในห้องนี้จะเป็นครัวแบบเปิด ซึ่งครัวแบบนี้จะเหมาะกับการเตรียมอาหารแบบเบาๆเท่านั้น ส่วนถ้าใครชอบทำอาหารแบบจริงจังขอแนะนำว่าควรจะกั้นห้องเพิ่มให้เป็นสัดเป็นส่วนเพราะกลิ่นจากการทำอาหารจะฟุ้งไปทั่วห้องและอาจจะทำให้เฟอร์นิเจอร์เหม็นกลิ่นอาหารได้ค่ะ
สำหรับห้องครัวของห้อง Type นี้ จะได้เคาน์เตอร์ครัวแถมมาเช่นเดียวกัน โดยจะได้ทั้งชุดล่างและชุดบนตามแบบเลยค่ะ แต่โต๊ะทานอาหารที่เห็นจะไม่ได้แถมมาด้วย ต้องหาซื้อมาวางกันเองนะ
สำหรับเคาน์เตอร์ครัวที่ได้นอกจากตัวเคาน์เตอร์หลักแล้วก็จะได้ซิ้งค์ล้างจาน, เตาไฟฟ้าแบบ 2 หัว, ไมโครเวฟและเครื่องดูดควัน เคาน์เตอร์ครัวชิ้นล่างจะมีตู้เก็บของใต้ซิงค์ล้างจาน 1 ตู้และลิ้นชักสำหรับเก็บของ 1 ชั้นค่ะ
ชุดเคาน์เตอร์สินบนตัวหลักจะได้เป็นตู้เก็บของเนื้อพื้นที่เตรียมอาหาร 1 บาน ด้านในแบ่งเป็นชั้น 3 ชั้น และตู้เก็บของแบบตื้นๆบนเครื่องดูดควันอีก 1 ตู้
ส่วนตู้เก็บอีกชุดจะเป็นตู้เก็บของเหนือซิงค์ล้างจาน 1 บาน ด้านในแบ่งเป็น 3 ชั้นย่อยและตู้เก็บของเหนือพื้นที่วางตู้เย็นอีก 1 บานด้านในจะมีตู้ไฟติดตั้งอยู่ด้วยค่ะ
หลังจากวางโต๊ะทานอาหารตามแบบห้องตัวอย่างลงไปแล้ว จะเหลือพื้นที่ยืนเตรียมอาหารประมาณ 80 ซม. ซึ่งพอสำหรับการยืนทำครัวคนเดียวแบบสบายๆ แต่ถ้าเข้ามายืนช่วยกัน 2 – 3 คนอาจจะแน่นไปหน่อยนะคะ
เรามาดูพื้นที่โถงอเนกประสงค์กันต่อ
พื้นที่ตรงนี้ในห้องตัวอย่างทางโครงการจัดมาให้เป็นโต๊ะเขียนหนังสือหรือพื้นที่ทำงาน ซึ่งก็ดูเป็นไอเดียที่เหมาะสมดีสำหรับคนที่ต้องเอางานกลับมาทำที่ห้อง หรือถ้าใครไม่อยากจะใช้เป็นพื้นที่ทำงานก็สามารถที่จะเปลี่ยนเป็นพื้นที่อ่านหนังสือ หรือถ้าใครมีของเยอะก็สามารถ Built – in ตู้เก็บของบานใหญ่ๆได้ค่ะ
ถ้าเราทำเป็นโต๊ะทำงานจะเห็นว่ามีพื้นที่สำหรับเลื่อนเก้าอี้เข้าออกพอสมควร ไม่ได้กว้างมากแต่ก็ไม่ได้ใช้งานลำบากค่ะ
เราจะไปดูส่วนของระเบียงภายนอกกันต่อ โดยจะได้ประตูกั้นพื้นที่เป็นประตูบานเลื่อนเดี่ยวบานกรอบอลูมิเนียมสีชา กระจกสีดำใส ธรณีประตูก่อสูงขึ้นมาประมาณ 20 ซม.
พื้นที่ระเบียงขนาดประมาณ 0.70 x 4.2 เมตร เป็นระเบียงที่มีลักษณะยาวมาก แต่ความกว้างไม่กว้างเท่าไหร่ เราจึงสามารถวางได้แค่ราวตากผ้าหรือกระถางต้นไม้เล็กๆ แต่ถ้าอยากจะวางชุดโต๊ะกาแฟอาจจะได้แต่น่าจะอึดอัดสักหน่อยค่ะ
จากภาพถ้าสังเกตุเราจะเห็นว่าไม่มีคอมเพรสเซอร์แอร์ติดตั้งอยู่ทางฝั่งใดฝั่งหนึ่งของระเบียง เนื่องจากแบบของห้องนี้ ทางโครงการได้จัดที่ติดตั้งคอมเพรสเซอร์แอร์ไว้บนฝ้า พร้อมตะแกรงบังสายตาค่ะ
กลับมาด้านในห้องเราจะไปดูในส่วนของ Master Bedroom กันต่อค่ะ
ภายในห้อง Master Bedroom จะเห็นว่ามีช่องแสงบานใหญ่ติดกับเตียงซึ่งก็คือประตูบานเลื่อนที่เชื่อมออกไปยังระเบียงภายนอก ช่วยให้ห้องได้รับแสงธรรมชาติเข้ามาพอสมควร ถ้าใครกลัวร้อนก็แนะนำให้ติดผ้าม่านกัน UV ด้วยค่ะ
ที่พื้นติดตั้งตัวจบลามิเนตกันฝุ่นไว้ให้ที่ห้องนอนทุกห้อง
ห้องนี้วางเตียงขนาดควีนไซส์มาให้ดูเป็นตัวอย่าง
ลักษณะการวางเตียงจะวางติดกับผนังด้านขวา ซึ่งก็คือประตูเชื่อมไปยังระเบียงทำให้ระยะฝั่งนี้ค่อนข้างแคบอาจจะเข้าไปปูผ้าปูที่นอนลำบากหน่อย
พื้นที่ปลายเตียงมีปลั๊กมาให้สำหรับใครที่จะติดทีวีไว้ดูก่อนนอน ซึ่งทีวีที่แนะนำให้ใช้จะเป็นทีวีแบบจอแบนติดผนัง เนื่องจากว่าพื้นที่ปลายเตียงเหลือไม่เยอะถ้าใช้แบบตู้วางทีวีจะเกะกะเกินไปค่ะ
จากห้องนอนจะมีพื้นที่เชื่อมต่อไปยังระเบียงภายนอก โดยบานประตูที่เชื่อมระหว่างพื้นที่ จะได้เป็นประตูบานเลื่อนบานใหญ่ บานกรอบอลูมิเนียมสีชา กระจกสีดำใส ส่วนพื้นที่ระเบียงภายนอกของห้องนอนนี้ก็จะเป็นระเบียงเดียวกับที่เข้าได้จากโถงอเนกประสงค์ค่ะ
ส่วนอีกด้านของห้องจัดเป็นตู้เสื้อผ้า
ระยะการใช้งานเหลือประมาณ 75 ซม. ค่อนข้างกระชั้นกับเตียงหน่อยค่ะ แนะนำให้ทำเป็นตู้เสื้อผ้าแบบบานเลื่อนจะสะดวกขึ้นอีกหน่อย
ถัดมาเราจะไปดูในส่วนของห้องนอนรองกันต่อค่ะ
ด้านหลังบานประตูห้องนอนทุกห้องจะมีตัว Stopper ติดตั้งมาให้เช่นกัน
ภายในห้องนอนรองจะมีช่องแสงบานใหญ่ 1 บาน เป็นหน้าต่างบานเลื่อนคู่ประกบด้วยหน้าต่างบานฟิกซ์ 3 บานบ้านกรอบได้เป็นอลูมิเนียมสีชากระจกใสสีออกดำๆ
ทางโครงการวางเตียงขนาดควีนไซส์มาให้ดูเป็นตัวอย่าง
ระยะข้างเตียงที่เหลือฝั่งซ้ายติดกับหน้าต่าง เหลือน้อยมาก
ส่วนอีกด้านเหลือประมาณ 80 ซม. พอให้ใช้งานได้สะดวก หรือถ้าใครนอนคนเดียวในห้องนี้ก็สามารถใช้เป็นเตียง 3.5 ฟุตได้ จะได้เหลือพื้นที่ว่างในห้องสำหรับวางโต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะเขียนหนังสือเพิ่มค่ะ
พื้นที่ปลายเตียงจัดเป็นตู้ลอยสำหรับวางทีวีมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งเมื่อลองวัดระยะการใช้งานดูแล้วจะเหลือประมาณ 60 ซม. ก็พอให้เดินผ่านได้ไม่อึดอัดค่ะ แต่ถ้าใครไม่ได้ชอบดูทีวีในห้องนอนก็สามารถที่จะเปลี่ยนเป็นตู้เก็บของที่มีความกว้างน้อยกว่านี้ จะได้หรือพื้นที่ไปเหลือปลายเตียงเยอะหน่อย เวลาเดินจะได้ไม่สะดุดค่ะ
จากพื้นที่ครัวเราจะไปดูในส่วนของห้องน้ำทางฝั่งขวามือที่ติดกับครัวกันก่อน ถัดมาเราจะไปดูในส่วนห้องนอนรองที่อยู่ติดกับห้องน้ำและพื้นที่โถงอเนกประสงค์ตรงกลาง สุดท้ายเราจะไปดูด้านในห้อง Master Bedroom กันค่ะ
ภายในห้องน้ำตกแต่งด้วยโทนสีเทาสไตล์โมเดิร์น พื้นห้องน้ำลดระดับลงไปประมาณ 4 ซม. ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้สีครีมๆ มีฟังชั่นครบ แยกส่วนเปียกส่วนแห้งออกจากกัน กระจกเงาได้แบบบานใหญ่เกือบเต็มผนัง ด้านล่างมีบ่าวางของยาวไปจนถึงห้องอาบน้ำ
อ่างล้างมือได้เป็นอ่างทรงสี่เหลี่ยมพร้อมเคาน์เตอร์ใต้อ่างของ American Standard พร้อมก๊อกน้ำแบบปรับอุณหภูมิได้
ติดกับอ่างล้างมือจะเป็นส่วนของโถสุขภัณฑ์พร้อมสายชำระและที่วางกระดาษชำระของ American Standard ระยะติดตั้งพอดีๆ สามารถใช้งานได้สะดวก
พื้นที่อาบน้ำจะได้ Shower Box ตั้งอมาให้เป็นสัดเป็นส่วน ช่วยให้เวลาอาบน้ำ น้ำจะไม่กระเซ็นออกมาพื้นที่ด้านนอก และตัว Shower Box ที่ได้จะเป็นบานผลักเข้าไปด้านในแบบนี้ค่ะ
มือจับเป็นแท่งเหลี่ยม ยาว สามารถวางผ้าขนหนูได้
ภายในห้องอาบน้ำจะได้ฝักบัวอาบน้ำแบบ Rain Shower และ Hand Shower แบบปรับระดับได้ ของ Grohe ด้านหลังฝักบัวอาบน้ำจะมีบ่าวางของ สามารถใช้วางขวดแชมพูหรือสบู่ขวดเล็กๆได้
ห้องอาบน้ำขนาดประมาณ 1.10 x 1.50 เมตร สามารถยืนอาบได้สบายๆ พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้สีดำ และพื้นลดระดับลงไปประมาณ 2.5 ซม.
ราคา
ราคาเฉลี่ยประมาณ : 123,000 บาท/ตร.ม.
ค่าส่วนกลาง : 65 บาท/ตร.ม./เดือน (เก็บล่วงหน้า 2 ปี)
ค่ากองทุน : 650 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)
สอบถามราคาเพิ่มเติมกรุณาติดต่อสำนักงานขายเพื่อข้อมูลที่อัพเดตที่สุดค่ะ*
คลิกเลย!! ลงทะเบียนรับส่วนลดพิเศษ https://urbano.pruksa.com/rajavithi/contact-us
สรุป
ทำเลที่ตั้ง : โครงการ Urbano ราชวิถี ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ราชวิถี ฝั่งมุ่งหน้าอนุสาวรีย์ ใกล้แยกบางพลัด ใกล้สะพานข้ามแยกไปถนนสิรินธรและ ใกล้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินในอนาคต บรรยากาศโดยรวมรอบๆโครงการเป็นแหล่งชุมชน ทั้งโรงเรียนและวัด (โรงเรียนเขมะสิริอนุสรณ์และวัดภคินีนาถวรวิหาร) ทำให้มีความอุดมสมบูรณ์สูง ติดกับโครงการมีร้านอาหาร ร้านขายของชำ และร้านเสริมสวย ฝั่งตรงข้ามโครงการก็มี Mini Big C และตลาดสด ไกลออกไปอีกนิดก็มีปั๊มน้ำมันให้บริการ และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆก็ค่อนข้างครบครันแต่จะเป็นในแบบของร้านอาคารพาณิชย์นะ และถึงจะอยู่ในแหล่งชุมชนแต่ก็ไม่วุ่นวายมาก เหมาะกับการอยู่อาศัยค่ะ
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว : โครงการตั้งอยู่ติดกับถนนใหญ่ราชวิถี การเดินทางด้วยรถยนต์จึงค่อนข้างสะดวก แต่รถจะติดมากๆในช่วงเวลาเร่งด่วนตอนเช้าหรือเลิกงานตอนเย็น ซึ่งรถจะติดสะสมตรงบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ตัวถนนราชวิถีสามารถเชื่อมกับถนนเส้นอื่นๆได้หลายสายทั้งถนนเส้นหลักและถนนเส้นย่อยๆ เช่น ถนนกำแพงเพชร, ถนนสวรรคโลก, ถนนสุโขทัย, ถนนศรีอยุธยา, ถนนสามเสน, ถนนราชดำเนินนอก, ถนนจรัญสนิทวงศ์, ถนนบรมราชชนนี เป็นต้น ทำให้เรามีทางเลือกที่หลากหลายในการเดินทางไปยังที่ต่างๆ แต่ยังไม่มีทางด่วนใกล้ๆโครงการค่ะ
การเดินทางโดยรถสาธารณะ : สะดวกพอประมาณ สามารถเรียก Taxi ได้จากหน้าโครงการ และมีป้ายรถเมล์ฝั่งมุ่งหน้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ระยะทางประมาณ 100 เมตร จากโครงการ หรือรถเมล์ที่มุ่งหน้าไปทางฝั่งถนนสิรินธรก็ต้องข้ามถนนไประยะทางประมาณ 250 เมตร จากโครงการ ถือว่ายังพอเดินได้สะดวกอยู่ค่ะ
นอกจากนั้นในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน โดยสถานีที่ใกล้โครงการที่สุดจะเป็นตัวสถานีสิรินธร บริเวณแยกบางพลัด ถ้าเดินมาจากโครงการก็จะมีระยะทางประมาณ 350 เมตร ที่ใกล้จะเปิดให้บริการกันยายนปีนี้แล้วค่ะ
การออกแบบโครงการและวัสดุ : ตัวอาคารจะใช้โทนสีเทา – เทาเข้ม ดูหรูหรา ทันสมัย ตัวอาคารเป็นอาคาร High Rise 1 อาคาร สูง 25 ชั้น มีห้องพักทั้งหมด 323 ยูนิต ห้องในโครงการขายแบบ Fully Fitted ห้องในโครงการจะเน้นแบบ 1 Bedroom ซะเป็นส่วนใหญ่ ส่วนห้อง 2 Bedrooms จะมีแค่ชั้นละ 4 ห้องเท่านั้น ฟังก์ชั่นห้องโดยรวมครบถ้วนตามความจำเป็นที่ต้องใช้ ในห้องตัวอย่างแบบ 1 Bedroom ที่ดูก็ไม่มีส่วนไหนที่แคบจนเกินไป ได้มาเหมาะสมกับการใช้งาน
ส่วนวัสดุได้ของค่อนข้างดี ได้เป็นเฟอร์บิวท์อินส่วนเคาน์เตอร์ครัวพร้อมเตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน อ่างล้างจาน และเตาไมโครเวฟ บานเปิดปิดเป็นแบบ Soft Close + หน้าบาน Hi-Gloss , พื้นห้องนั่งเล่นและห้องนอนปูด้วยลามิเนต หนา 12 มม. , พื้นห้องครัวและห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้, พื้นระเบียงปูกระเบื้องเซรามิค, ผนังติด Wallpaper, ไฟได้แบบดาวน์ไลท์ทั้งหมด, สุขภัณฑ์ในห้องน้ำใช้ของ American Standard ฝักบัวใช้ของ Grohe และได้ Shower Box มาในทุกห้อง นอกจากนั้นจะได้แอร์ห้องละ 2 ตัว
สาธารณูปโภค : ให้มาครบค่ะ โดยจะมี Main Lobby, Mailbox ครบทุกยูนิต โถงลิฟต์ มีลิฟต์ 4 ตัว เป็นลิฟท์โดยสาร 3 Service Lift 1 อัตราส่วนยูนิตต่อจำนวนลิฟท์ประมาณ 1 : 107 ถือว่าพอดีแบบแน่นๆ นิดนึง เวลาเร่งด่วนอาจจะต้องเสียเวลารอลิฟท์หน่อย แต่ไม่มากค่ะ ที่จอดรถประมาณ 50% ไม่รวมซ้อนคัน ส่วนกลางหลักอยู่ที่ชั้น 25 มีสระว่ายน้ำแบบ Infinite Edge Pool และพื้นที่รอบสระ, Sky Gym, Cubic Hub และ Sky Lounge และด้านบนก็มีสวน Roof Top เพิ่มมาอีกจุด ได้วิวเมือง สะพานกรุงธนและแม่น้ำเจ้าพระยา
ในเรื่องระบบรักษาความปลอดภัย เป็นแบบ Triple Security พร้อมติดตั้งกล้อง CCTV มีรปภ. ดูแลตลอด 24 ชม. ค่ะ
คะแนน
ทำเลที่ตั้งโครงการ | 8.0 | ติดถนนใหญ่ราชวิถี รอบๆมีความเป็นชุมชนแต่ไม่พลุกพล่าน เดินทางด้วยรถยนต์สะดวกพอสมควร เป็นทำเลรถไฟฟ้าในอนาคต ความอุดมสมบูรณ์รอบโครงการมีเยอะ |
การเดินทาง ใช้รถ | 7.5 | เดินทางสะดวก แต่รถจะติดหนักช่วงเวลาเร่งด่วน |
การเดินทาง ไม่ใช้รถ | 7.8 | เรียก Taxi หน้าโครงการได้ หรือจะใช้บริการรถเมล์ก็ได้และรถไฟฟ้าก็ใกล้พร้อมใช้งานแล้วค่ะ |
ห้องและวัสดุ | 8.0 | แปลนห้องแบ่งได้เป็นสัดส่วนลงตัว ขายแบบ Fully Fitted วัสดุ และเฟอร์นิเจอร์ที่ได้มีคุณภาพเหมาะมาตรฐานเหมาะสมกับราคา |
สิ่งอำนวยความสะดวก | 8.5 | มีให้ครบครัน น่าใช้งาน ของจริงทำออกมาสวยเลย |
ความคุ้มค่ากับราคา | 8.0 | คอนโดทำเลราชวิถี ตัวโครงการออกแบบมาหรูดูดี สไตล์ Urbano เหมาะกับคนที่ทำงานโซนฝั่งธน และยังต้องเข้าออกเมืองบ่อยๆ ใช้รถยนต์ส่วนตัวสะดวกแต่รถติดหน่อย รถสาธษรณะสะดวกพอสมควร ไม่ไกลจากรถไฟฟ้า และอยากได้วิวสวยๆที่สามารถช่วยผ่อนคลายได้ในทุกๆวัน |
คะแนนรวมเฉลี่ย | 7.96 | ดี |
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 1739
Website : http://urbano.pruksa.com/
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
แสดงความคิดเห็น