รีวิว คอนโด วิลล่า สาทร Villa Sathorn
Villa สาทร จาก ที.ซี.ซี แคปปิตอล แลนด์ ตั้งอยู่บนถนนกรุงธนบุรี แขวงคลองต้นไทร เขตคลองสาน กทม. ติดรถไฟฟ้า BTS กรุงธนบุรี ใกล้ SENA Fest, คลองสาน, วงเวียนใหญ่, เดอะมอลล์ ท่าพระ, รพ.ตากสิน และ สะพานตากสิน
วิลล่า สาทร เป็นคอนโด High Rise 40 ชั้น 1 อาคาร พื้นที่โครงการ 4-0-96.6 ไร่ ห้องพักอาศัย 636 ยูนิต มีห้องพักให้เลือกแบบสตูดิโอ, 1 ห้องนอน, 2 ห้องนอน และ 3 ห้องนอน ขนาดเริ่มต้น 38.00-156 ตร.ม. สร้างเสร็จพร้อมอยู่ปี 2553
สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการครบครัน อาทิ Lobby, สระว่ายน้ำ, สระเด็ก, ฟิตเนส, ซาวน่า, ห้องอเนกประสงค์, สวนพักผ่อน, ร้านค้า, ลิฟท์โดยสาร, ที่จอดรถ 40%, ประตูคีย์การ์ด และ รปภ. 24 ชม. เริ่มต้น 3.5 ล้านบาท*
ชื่อโครงการ | วิลล่า สาทร Villa Sathorn |
เจ้าของโครงการ | ที.ซี.ซี แคปปิตอล แลนด์ จำกัด |
ลักษณะห้องและขนาดห้อง | Studio / 38 – 42 ตร.ม. 1 Bedroom / 49 – 59 ตร.ม. 2 Bedrooms / 83.2 – 90.7 ตร.ม. 3 Bedrooms / 106 – 156 ตร.ม. |
เนื้อที่ทั้งหมด | 4-0-96.6 ไร่ |
จำนวนตึก | 1 อาคาร |
จำนวนชั้น | 40 ชั้น |
จำนวนห้อง | 636 ยูนิต |
ที่จอดรถทั้งหมด | 40% รวมจอดซ้อนคัน |
โซน | สาทร, ตากสิน, ธนบุรี, วงเวียนใหญ่ |
ขนส่งสาธารณะ | รถไฟฟ้า BTS สถานีกรุงธนบุรี 50 เมตร |
รถโดยสารที่ผ่าน | รถแท๊กซี่, รถกระป๊อ, วินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง รถประจำทาง : สาย 76, 84, 85, 105, 172 |
ที่ตั้ง | ถนนกรุงธนบุรี (ติดซ.กรุงธนบุรี 5 ) แขวงคลองต้นไทร เขตคลองสาน กรุงเทพฯ |
กำหนดการ | n/a |
ปีที่สร้างเสร็จ | กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 |
ราคา | เริ่มต้น 3.5 ล้านบาท (ม.ค. 2560) |
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม. | เริ่มต้น 92,xxx บาท/ตร.ม. |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง |
|
สิ่งอำนวยความสะดวก | – สะว่ายน้ำผู้ใหญ่ และเด็ก – ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ห้องอาบน้ำ ห้องบ็อกเกอร์ และห้องเซาน่า แยกชายหญิง – ห้องออกกำลังกาย – ห้องแอโรบิก – ห้องอเนกประสงค์ – บริการ ซัก อบ รีด – ร้านค้า – พื้นที่สวนบนอาคาร พร้อมลู่วิ่งออกกำลังกาย – เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง และโทรทัศน์วงจรปิด |
จุดเด่นโครงการ | Villa สาทร ใกล้รถไฟฟ้า BTS กรุงธนบุรี ตอบรับไลฟ์สไตล์ของคนเมืองยุคใหม่ ให้คุณมีความสุขได้ง่ายๆ…ในทุกๆด้านของชีวิต |
::: ที่ตั้งโครงการ :::
ถนนกรุงธนบุรี (ติดซ.กรุงธนบุรี 5 ) แขวงคลองต้นไทร เขตคลองสาน กรุงเทพฯ
พิกัด : 13.721220, 100.504142
แผนที่จากทางโครงการ
Villa Sathorn ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่กรุงธนบุรี ทางด้านฝั่งขาเข้าที่มุ่งหน้าข้ามสะพานตากสินไปยังถนนสาทร ทำเลดังกล่าวเป็นทำเลที่มีคอนโดขึ้นอยู่สองริมฝั่งถนนหลายโครงการด้วยกัน เนื่องจากเป็นทำเลที่เกาะแนวรถไฟฟ้า BTS ช่วงสถานีกรุงธนบุรีและวงเวียนใหญ่ ใช้เวลาไม่มากในการเข้าเมืองเพราะเพียงแค่ข้ามสะพานตากสินก็สามารถเข้าสู่ทำเลธุรกิจใจกลางเมืองที่สำคัญทั้งสาทรและสีลมได้แล้ว
สำหรับถนนกรุงธนบุรีจะเป็นเส้นที่แบ่งแยกเส้นหลักด้านในกับเส้นคู่ขนานด้านนอก โดยบรรยากาศเส้นคู่ขนานด้านนอกนั้นแต่กต่างกับเส้นหลักพอสมควรเพราะมีรถสัญจรผ่านน้อยและใช้เป็นเส้นทางในการเดินรถสาธารณะเป็นหลัก
เรื่องของการเดินทาง แน่นอนว่าการเข้าเมืองเป็นจุดแข็งของทางโครงการตามที่ได้มีเกริ่นไปว่าตัวโครงการอยู่ใกล้สะพานตากสินที่ใช้ในการข้ามฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อเข้าสู่สาทร-สีลม ระยะทางเพียง 1 กิโลเมตรเศษ โดยปกแล้วใช้เวลาในการเดินทางเพียง 5-10 นาทีเท่านั้น
แต่มีความจริงที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้คือเรื่องการจราจร เพราะสะพานตากสินนั้นเป็นสะพานที่ต้องรับบทบาทหนักทีเดียวในการลำเลียงยานพาหนะเข้าสู่ตัวเมือง โดยเฉพาะจากเส้นราชพฤกษ์ที่ปัจจุบันคนนิยมใช้เป็นเส้นหลักในการเข้าเมืองอันดับต้นๆ
อย่างไรก็ตามโครงการ วิลล่า สาทร ก็ยังคงได้เปรียบกว่าโครงการคู่แข่งในย่านเดียวกันเพราะว่าใกล้กับสะพานตากสินที่สุดนั่นเอง ทั้งยังมีตัวช่วยเสริมอย่างทางด่วนศรีรัชที่การเข้าถึงนั้นสะดวกทีเดียวเพราะจุดขึ้นลงอยู่ในสาทรช่วงต้นไม่ได้ไกลจากสะพานตากสินมากนัก ใช้งานได้ทั้งขาเข้าไป ดินแดง-พระราม 9 – แจ้งวัฒนะ หรือขาออกสู่ ดาวคะนอง-บางนา
อีกปัจจัยในการเดินทางที่สำคัญ ส่งผลให้เรื่องของทำเลโครงการโดดเด่นคือ รถไฟฟ้า BTS ตัวโครงการอยู่ห่างจากสถานี กรุงธนบุรี เพียงไม่กี่ก้าว ราวๆ 50 เมตรเท่านั้น กล่าวคือเดินออกมาหน้าบ้านก็เห็นทางขึ้นสถานีอยู่ตรงหน้าแล้ว เดินทางเพียง 6 สถานีก็ถึงศูนย์กลางแหล่งช๊อปปิ้งย่านสยาม รวมถึงยังเสริมด้วยตัวเลือกอื่นๆ ทั้งรถแท๊กซี่, รถมอไซค์รับจ้าง, รถประจำทาง และรถกระป๊อ
โดยนอกจากแท๊กซี่แล้วตัวเลือกอื่นๆอาจจะไม่ใช่คำตอบสำหรับผู้ที่มีกำลังซื้อ-เช่าคอนโดระดับนี้ แต่การที่มีทางเลือกหลากหลายก็น่าจะช่วยเพิ่มความสามารถในการเดินทางด้วยรถสาธารณะได้เป็นอย่างดี
เรื่องความอุดมสมบูรณ์ ในระยะเดินด้วยเท้าสะดวกผมแนะนำเป็น Max Valu สาขาขนาดกลางที่จะอยู่ด้านล่างของโครงการ Ideo Mobi สาทร เพียงข้ามสะพานลอยรถไฟฟ้ากรุงธนบุรีไปก็ถึงแล้ว ที่ผมแนะนำนั้นเนื่องจาก Max Valu เป็นร้านสะดวกซื้อที่จะมีข้าวกล่องปรุงสดขายในราคาที่ไม่แพงเลย 30-40 บาท แถมรสชาติก็ไม่ได้ขี้เหล่ น่าจะดีต่อสุขภาพมากกว่าอาหารประเภทแช่แข็ง รวมถึงมีวัตถุดิบประกอบอาหารพวกเนื้อหมู เนื้อไก่สด และผักสดต่างๆ
แต่ถ้าอยากได้บรรยากาศที่เป็นตลาดจริงมีตลาดวงเวียนใหญ่และตลาดเงินวิจิตร (ทั้งสองตลาดอยู่ใกล้กัน) อันนี้เป็นตลาดสดที่ใกล้โครงการที่สุด ระยะทางอยู่ที่ 1.7 กม. ซึ่งการเข้าถึงสะดวกสุดหากไม่ขับรถส่วนตัวก็ต้องเรียกวินมอไซค์ไปครับ ราคา 30 บาท ซึ่งหากรวมต้นทุนการเดินทางไปกลับแล้ว Max Valu ที่อยู่ใกล้โครงการน่าจะคุ้มค่าและสะดวกมากกว่าครับ
แต่ถ้ามองเป็นส่วนของห้างมี 2 จุดที่ผมอยากแนะนำ จุดแรกคือ Sena Fest คอมมูนิตี้มอลล์ที่มีร้านอาหารชื่อดังหลากหลายที่คุ้นหูหน่อยก็ KFC, Domino Pizza และ เท๊กซัส สุกี้ ยังไม่รวมพวกร้านกาแฟ Starbucks และร้านขนมอีกเพียบ ระยะทางจากโครงการถึง Sena Fest เพียง 950 เมตร ขับรถ 2-3 นาทีก็ถึงแล้ว
อีกจุดที่แนะนำก็คือห้าง The Mall ท่าพระ ห้างนี้ไปด้วยรถไฟฟ้าสะดวกเพียง 3 สถานีที่ BTS ตลาดพลู มีความครบครันมากกว่าส่วนมีอะไรบ้างนั่นคงไม่ต้องพูดถึงเพราะคงไม่มีใครไม่เคยเดินห้าง The Mall แน่นอนถ้าพักอาศัยอยู่ในเมืองกรุง
รถไฟฟ้าที่อยู่ใกล้โครงการที่สุดคือ BTS สถานี กรุงธนบุรี ห่างเพียง 50 เมตรจากบันไดทางขึ้น ระหว่างทางมีทั้งวินมอไซค์และป้ายรถประจำทาง จะเห็นว่าเพียงแค่ระยะทาง 2 สถานีก็เข้าถึงสถานีสุรศักดิ์ หรือย่านสาทรนั่นเอง
เรื่องของการกลับรถ จุดแรกที่อยากพูดถึงคือการกลับรถเพื่อเข้าโครงการ ในกรณีที่มาจากสะพานตากสิน ต้องมุ่งหน้าไปทางถนนสมเด็จพระเจ้าตากสินจุดกลับรถจะอยู่เลย BTS วงเวียนใหญ่ไปเล็กน้อยใกล้กับแยกตากสิน-ธนบุรี พอกลับรถเสร็จจากนั้นจึงเบี่ยงออกทางคู่ขนานเพื่อเข้าโครงการ
ในส่วนของการเดินทางไปยังสะพานตากสินนั้นจะมีข้อสังเกตนึงคือ ถนนที่อยู่ด้านหน้าโครงการนั้นเป็นถนนทางคู่ขนาน ไม่สามารถเข้าทางหลักด้านในเพื่อขึ้นสะพานได้โดยตรง แต่ไม่ต้องกังวลแต่อย่างใด เพราะหากวิ่งไปตามเส้นคู่ขนานเลี้ยวโค้งไปเพียงนิดเดียวจะมีจุดกลับรถเพื่อให้สามารถวนขึ้นสะพานตากสินได้เลย
ส่วนถ้าหากต้องการเดินทางไปยังฝั่งขาออก สู่ถนนราชพฤกษ์หรือถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน การกลับรถนั้นจะไปกลับอยู่ที่บริเวณใต้สะพานตากสินหรือถนนเจริญนครนั่นเอง โดยการกลับรถดังกล่าวนั้นอาจจะกินเวลาพอสมควร เนื่องจากเราต้องเจอกับสัญญาณจราจรถึง 2 จุดด้วยกัน หากโชคไม่ดีเจอจังหวะไฟแดง 2 ครั้งเลยก็ต้องมี 5-10 นาทีในการกลับรถเลยทีเดียว
::: การเดินทาง :::
เส้นทางที่ผมใช้เดินทางไปยังโครงการ Villa Sathorn ในวันนี้ ผมมาจากทางฝั่งสาทรมุ่งหน้าขึ้นสะพานตากสินเผื่อข้ามไปยังฝั่งธนบุรี โดยพอลงจากสะพานตากสินจะสามารถสังเกตเห็นตัวอาคารได้ทางฝั่งขวา ซึ่งเราจะต้องไปกลับรถด้านหน้า โดยจุดกลับรถจะอยู่เลยจาก BTS วงเวียนใหญ่ไปเพียงเล็กน้อย ผมมีภาพประกอบการเดินทางดังนี้ครับ
สรุปการเดินทาง : ถนนสาทร > สะพานตากสิน > ถนนกรุงธนบุรี > กลับรถที่บริเวณแยกตากสิน-ธนบุรี > Villa Sathorn
เริ่มต้นออกเดินทางจากถนนสาทรฝั่งมุ่งหน้าไปยังสะพานตากสินเพื่อข้ามฝั่งไปยังฝั่งธนบุรี หรือทางที่มุ่งหน้าไปยังถนนราชพฤกษ์
ผ่าน BTS สะพานตากสิน
สามารถมองเห็นตัวอาคาร Villa Sathorn ได้จากด้านบนสะพานตากสินทางด้านขวามือ
ตัวโครงการตั้งอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า BTS กรุงธนบุรี แต่จะเป็นอีกด้านคือฝั่งขาเข้า ดังนั้นเราจึงต้องไปกลับรถด้านหน้า
จุดกลับรถจะอยู่เลย BTS วงเวียนใหญ่ไปเล็กน้อย โดยพอถึงสถานีดังกล่าวให้เบี่ยงออกซ้าย
วิ่งอยู่ถนนคู่ขนานด้านซ้าย หากวิ่งด้านในจะเป็นการขึ้นสะพานข้ามแยกไปยังราชพฤกษ์
จุดกลับรถอยู่ด้านล่างสะพานใกล้กับแยกตากสิน-ธนบุรี
พอกลับรถมาเราจะผ่าน BTS วงเวียนใหญ่อีกครั้ง โดยให้เราวิ่งออกไปที่ทางคู่ขนานด้านนอก
หากยังไม่ได้ออกมายังทางคู่ขนานด้านนอก เราสามารถออกได้อีกจุดนึงตรงช่วงระหว่าง BTS วงเวียนใหญ่และกรุงธนบุรี
ถึง BTS กรุงธนบุรีเตรียมตัวชิดซ้าย
เลยจากตัวสถานีมาเพียงเล็กน้อยไม่เกิน 100 เมตร ถึงแล้วครับโครงการ Villa Sathorn
::: บริเวณโครงการ :::
สถานที่สำคัญบริเวณโครงการ
แยกและถนนสำคัญใกล้เคียง
ภาพมุมสูงจากดาวเทียม ที่ตั้งของโครงการ Villa Sathorn อยู่ติดถนนใหญ่กรุงธนบุรี ใกล้กับรถไฟฟ้า BTS กรุงธนบุรี พื้นที่ดังกล่าวมีคอนโดขึ้นอยู่หลายโครงการโดยทางทิศตะวันออกมีโครงการ Bangkok Feliz ในรูปแบบคอนโด Low-Rise สูงเพียง 8 ชั้น ส่วนทางด้านตะวันตกติดกับลานจอดรถ”จอดแล้วจร” ถัดจากลานจอดรถไปเป็นคอนโด Hive สูง 31 ชั้น สังเกตเห็นได้ว่าโดยรอบโครงการไม่มีอาคารสูงในระยะประชิดจึงทำให้เรื่องของลมหรือวิวทิวทัศน์ค่อนข้างเปิดโล่งไม่อึดอัด ส่วนร้านสะดวกซื้อที่อยู่ใกล้ที่สุดมี Max Valu สาขาขนาดกลาง อยู่ใต้คอนโด Ideo Mobi สาทร ต้องข้ามฝั่งไปใช้งานประมาณ 200 เมตร
ผมขออนุญาตพาทุกท่านเดินชมบรรยากาศแถวๆโครงการกันก่อนโดยเริ่มจากบริเวณรถไฟฟ้า BTS กรุงธนบุรีครับ
ตัวสถานีอยู่ห่างจากโครงการเพียง 50 เมตร
ถนนกรุงธนบุรีช่วงด้านหน้าโครงการ มองจากมุมนี้เห็นชัดว่าเป็นถนนแบบคู่ขนาน ทางหลักใช้สำหรับขึ้นสะพานตากสินข้ามฝั่งไปยังสาทร ส่วนทางคู่ขนานจะเบี่ยงออกไปยังถนนเจริญนคร แต่สามารถกลับรถเพื่อขึ้นสะพานตากสินได้เช่นกันตามกราฟิกในหัวข้อทำเล
คอนโด Villa Sathorn สูง 40 ชั้น ตัวอาคารโทนสีขาว-ส้ม ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่
เรื่องการคมนาคมของตัวโครงการถือว่าครบเครื่องเลยทีเดียว ผมยืนอยู่บน สถานีรถไฟฟ้าสะพานตากสิน มองลงไปบริเวณเชิงบันไดสถานี จุดดังกล่าวมีให้เลือกใช้งานทั้งรถประจำทาง, รถแท๊กซี่ และรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง รวมถึงหากต้องการข้ามฝั่งเพื่อขึ้นรถไปฝั่งขาออกก็มีสะพานลอยอยู่หน้าโครงการนั่นแหล่ะครับ สะดวกมากทีเดียวสำหรับการใช้งานรถสาธารณะ
อาคารที่อยู่ใกล้กับโครงการที่สุดคือ Hive @ ตากสิน สูง 31 ชั้น แต่ระยะห่างมีอพอสมควรโดยมีลานจอดแล้วจรคั่นกลางอยู่
รถไฟฟ้ากรุงธนบุรีอยู่ห่างจากสถานีศาลาแดง ที่ใช้ Interchange กับ MRT ระยะทาง 4 สถานี และห่างจากสถานีสยาม ระยะทาง 6 สถานี
จากสถานีมีทางเดิน Sky Walk เชื่อมต่่อกับสะพานลอยหน้าโครงการ ทำให้การเดินด้วยเท้าไปยังโครงการ สะดวกขึ้นไปอีกขั้น
ลงสะพานลอยไป เดินอีก 20-30 เมตรถึงตัวโครงการ
มองย้อนกลับไปยังสถานีรถไฟฟ้ากรุงธนบุรี
กลับมาที่บริเวณเชิงบันไดรถไฟฟ้า พอลงมาปุ๊ปเจอกับวินมอไซค์และรถแท๊กซ๊่จอดรถให้บริการอยู่ ไว้เป็นตัวเลือกเสริมเผื่อเหลือเผื่อขาด
อัตราค่าบริการรถมอไซค์รับจ้าง
ฟุตบาทช่วงระหว่างรถไฟฟ้าไปยังโครงการ กว้างขวาง สะอาด เดินสะดวก
ป้ายรถประจำทางอยู่ด้านหน้าโครงการ Villa Sathorn
ป้ายโครงการ Villa Sathorn
บรรยากาศบริเวณทางเข้าออกโครงการมีต้นไม้สีเขียวหน้าแน่นคอยให้ร่มเงา และดูร่มรื่น
บริเวณทางเดินเท้าค่อนข้างเงียบสงบ มีคนเดินสัญจรผ่านน้อย
ด้านข้างโครงการติดกับซอยกรุงธนบุรี 5 ด้านในสามารถใช้ทะลุไปยังถนนเจริญนครได้ แต่การใช้งานไม่ได้สะดวกมากกว่าการใช้เส้นหลักหน้าโครงการ ผมจึงขอไม่นำเสนอในส่วนนี้
เงยหน้ามองบน ชมตัวอาคาร Villa Sathorn มุมจากด้านหน้าถนนใหญ่
ทางเข้าออกโครงการต้มไม้ปกคลุมหนาเขียวขจี
อย่างที่ผมได้กล่าวไปว่าถนนเส้นคู่ขนานค่อนข้างเงียบสงบ รถสัญจรผ่านไม่หนาแน่นเหมือนกับเส้นหลัก
ทางเดินเท้าเข้าโครงการ
ได้เวลาเข้าไปชมด้านในโครงการกันต่อทั้งส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวกและห้องตัวอย่าง
::: ภายในโครงการ :::
บริเวณหน่วยรักษาความปลอดภัยหน้าโครงการ มีรปภ.ประจำหน้าที่ 24 ชม. พร้อมกล้อง CCTV ลูกบ้านแตะคีย์การ์ดเพื่อเปิดไม้กระดก ส่วนบุคคลภายนอกต้องแลกบัตรทุกครั้ง
วงเวียนหน้าทางเข้า Lobby เป็นจุด Drop off
เดินรอบอาคารกันสักรอบเพื่อดูบรรยากาศโดยรวมครับ ทิศทางการเดินรถภายในโครงการสามารถวิ่งสวนกันได้
มีถนนล้อมรอบอาคารตามหลักกฏหมาย เผื่อในกรณีเหตุฉุกเฉินต่างๆ ให้รถเจ้าหน้าที่สามารถวิ่งเข้าถึงจุดเกิดเหตุได้
จุดนี้มีชุดไม้กระดกในการกรองรถอีกหนึ่งชุด เพื่อให้บุคคลภายนอกถูกกำจัดสิทธิ์ใช้งานได้แค่บริเวณลานจอดรถด้านหน้าเท่านั้น
เดินมาจนถึงมุมด้านหลังอาคาร ในส่วนที่เป็นอาคารลานจอดรถ สูง 4 ชั้น แต่ทางขึ้นอาคารจะอยู่อีกด้านนึง
ด้านข้างมีทางออกเชื่อมต่อกับซอยกรุงธนบุรี 5 มีเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. เช่นกัน
มีแผงรั้วเหล็กอีก 1 ชั้น แต่ช่วงระหว่างวันจะเปิดตลอด และปิดในช่วงค่ำเพื่อความปลอดภัย
ทางเข้าลานจอดรถมีจุดเดียว อยู่ทางฝั่งทิศตะวันออกของตัวอาคาร
ลานจอดรถตั้งแต่ชั้น 1-4 สามารถรองรับได้ 40% รวมการจอดแบบซ้อนคันแล้ว
วนตามเข็มนาฬิกา กลับมาจนถึงช่วงด้านหน้าโครงการ
ภายในโครงการต้นไม้เยอะร่มรื่นจริงๆครับ
เข้าไปชมด้านในอาคารกันต่อครับ
Reception สำหรับติดต่อกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายและนิติบุคคล
ล็อบบี้ เพดานสูงโปร่ง Double Volume พื้นที่กว้างขวาง
Meeting Point หน้าต่างบานใหญ่เต็มผนังใกล้ชิดธรรมชาติ
Mailroom
สิ่งอำนวยความสะดวกของโครงการมีอยู่ 2 จุดด้วยกันคือบริเวณชั้น 1 และชั้น 4
เริ่มที่ชั้น 1 กันก่อนเลย ประกอบด้วยสระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, ห้องปิงปอง และห้องซาวน่า
ฟ้องฟิตเนสและห้องปิงปองอยู่ที่ชั้นลอยห้องกระจกด้านบน ส่วนด้านล่างคือห้องน้ำและห้องซาวน่า
เข้ามาภายในห้องน้ำกันก่อน
อ่างล้างหน้าและห้องล๊อคเกอร์ พื้นที่กว้างใช้งานสะดวก
ห้องซาวน่า
ห้องอาบน้ำ
ขึ้นไปชมห้องออกกำลังกายด้านบนชั้นลอย
ด้านบนแบ่งเป็น2 ส่วนคือห้องฟิตเนสและห้องปิงปอง
ห้องปิงปอง ผนังกระจกสูงโปร่ง พื้นปูด้วยปาร์เก้
มีอุปกรณ์ให้สำหรับผู้ที่ไม่ได้เตรียมมา ทั้งไม้ปิงปองและลูกปิงปอง
มองลงไปด้านล่างเป็นพื้นที่สระว่ายน้ำ
ในส่วนของห้องฟิตเนสนั้น เนื่องจากมีผู้ใช้บริการอยู่ค่อนข้างหนาแน่น ผมจึงไม่สามารถเก็บภาพมาให้ชมได้ เนื่องจากไม่ต้องการรบกวนความเป็นส่วนตัวของลูกบ้าน ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับผม แต่ในส่วนของอุปกรณ์นั้นมีให้ครบครันทั้ง ลู่วิ่ง, เครื่องเดินวงรี, แมชชีนสร้างกล้ามเนื้อ และดัมเบลล์หลายขนาด
ลงมาชมสระว่ายน้ำกันต่อครับ
วันที่เดินทางไปเก็บภาพสระว่ายน้ำอยู่ในช่วง ปิดปรับปรุงสภาพน้ำ จึงทำให้น้ำในสระอาจจะออกขุ่นๆนิดนึง
ภาพรวมบริเวณสระว่ายน้ำ ตั้งอยู่ด้านนอกส่วนที่ open air
ปกติแล้วสระว่ายน้ำ จะออกสีเขียวๆอยู่แล้วด้วยสีของกระเบื้องคล้ายสีของสระมรกต ขนาดสระว่ายน้ำ 30 x 8 เมตร
ทางเดิน ระหว่างสระเด็กและสระผู้ใหญ่
ขนาดสระเด็กลึก 0.6 เมตร
มีสไลเดอร์ สำหรับเจ้าตัวเล็กให้ด้วย
ริมสระทำเป็น Deck นั่งเล่น พื้นและระแนงไม้ ช่วยกรองแสงแดด ในขณะที่ยังคงความโปร่งสบาย อากาศไหลผ่านถ่ายเทได้ดี
ขอจบภาพบรรยากาศบริเวณชั้น 1 ที่จุดนี้ โดยผมจะพาไปชมสวนหย่อมที่ชั้น 4 กันต่อครับ
ขณะนี้ผมอยู่ที่สวนหย่อมของโครงการ บริเวณชั้น 4
พื้นสวนปูด้วยหญ้าแท้สีเขียว ด้านข้างปูทางเดินโดยรอบ สามารถใช้วิ่งจ๊อกกิ้งได้เลย
สวนหย่อมถูกออกแบบให้มีการเล่นระดับ 2 ขั้น บริเวณทางขึ้นต่างระดับนั้นมีทั้งขั้นบันไดและทางลาดชัน อำนวยความสะดวกสำหรับผู้วิ่งจ๊อกกิ้งและผู้ที่ต้องใช้วีลแชร์
สวนด้านบนปลูกต้นไม้ทั้งไม้ใหญ่และไม้พุ่มสองข้างทาง
มีม้านั่งอยู่เป็นระยะ และลานระแนงไม้ ให้นั่งเล่นพักผ่อนหรือพักเซตจากการวิ่งออกกำลังกาย
::: แปลนอาคาร :::
Master Plan
4th Floor
4th – 34th Floor
35th – 40th Floor
::: แปลนห้อง :::
VILLA SATHORN มีห้องให้เลือกหลักๆ 4 แบบ มีดังนี้ครับ
Studio : Type A1-1 / Type A2-1
Studio : Type A3-1 / Type A3-2
Studio : Type A4-1 / Type A5-1
1 Bedroom : Type B1-1 / Type B2-1
1 Bedroom : Type B2-2 / Type B3-1
1 Bedroom : Type B4-1 / Type B5-1
1 Bedroom : Type B6-1 / Type B6-2
1 Bedroom : Type B7-1 / Type B8-1
2 Bedroom : Type C1-1 / Type C2-1
3 Bedroom : Type D1-1
::: ห้องตัวอย่าง :::
ตัวโครงการ Villa Sathorn นั้นเป็นโครงการที่ Sold out ไปแล้ว แต่ว่ายังคงมีการ Resale หรือปล่อยเช่าอยู่ โดยทางโครงการอนุญาตให้เราสามารถเข้าไปเก็บภาพห้องพักอาศัยได้ทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่
ในช่วงต้นนั้นทางโครงการขายแบบ Fully Fitted คือมีเคาน์เตอร์ครัวพร้อมเตาฮูดดูดควัน และอุปกรณ์ในห้องน้ำให้ ส่วนห้องที่มีขายอยู่นั้นเป็นรูปแบบ Resale หรือปล่อยเช่า อุปกรณ์จำพวกเฟอร์นิเจอร์หรือการบิวท์อินต่างๆนั้นจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับการตกแต่งของแต่ละยูนิต โดยยูนิตที่ผมได้เก็บภาพมาให้ชมนั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งหากสนใจกรุณาติดต่อกับทางสำนักงานขายตามที่อยู่ติดต่อด้านท้ายรีวิว เพื่อนัดเข้าชมห้องจริงกับทางเจ้าหน้าที่ครับ
เริ่มจากแบบห้อง Studio ขนาด 41 ตร.ม. กันก่อนครับ ดูตามแปลนเปิดห้องเข้ามาเจอกับโซน Pantry และมุมทานอาหาร ซึ่งเป็นแบบครัวเปิด ผ่านโซน Pantry เข้าไปเจอกับห้องนั่งเล่นเปิดโล่งเชื่อมต่อกับห้องนอน โดยไม่มีการกันส่วนห้องนอนตามรูปแบบของห้อง Studio ห้องน้ำเข้าจากโซนห้องนอนโดยมีพื้นที่ walk-in closet หน้าห้องน้ำ ภายในห้องน้ำแบ่งส่วนแห้งส่วนเปียกเป็นสัดส่วน
เข้าไปชมด้านในห้อง Studio A3-2 ขนาด 41 ตร.ม. กันครับ
ช่วงแรกเปิดประตูเข้ามาเจอกับ welcome zone
ด้านข้างบิลท์อินเป็นตู้เก็บรองเท้าและชั้นวางของด้านบนเพื่อใช้ประโยชน์จากพื้นที่แนวตั้ง
ทุกยูนิตมีโทรศัพท์สำหรับพูดคุยกับแขกผู้มาติดต่อที่ด้านล่าง
โซนถัดมาคือ Pantry ที่เป็นรูปแบบครัวเปิด เชื่อมต่อกับส่วนพักผ่อนด้านใน เพดานห้องสูง 2.7 เมตร ผนังฉาบเรียบทาสีขาว โคมไฟดาวน์ไลท์ทั้งห้อง
มองย้อนกลับไปยังทางเข้าห้องผ่าน Pantry
ชุดเคาน์เตอร์ครัว ชุดนี้เป็นอุปกรณ์พื้นฐานที่ทางโครงการให้มา เป็นเคาน์เตอร์บานปิดไม้บนล่างเข้ามุมรูปตัว L
ด้านข้างเว้นช่องสำหรับวางตู้เย็น เนื่องจากตำแหน่งการวางที่จำกัด ด้านข้างตู้เย็นไม่มีพื้นที่ระบายอากาศ ด้านบนจึงควรเปิดโล่งไว้เพื่อให้พอมีพื้นที่คลายความร้อนออกมาบ้าง
ท๊อปครัวหินแกรนิต บริเวณหลังเตากรุกันเปื้อนด้วยแกรนิตเพิ่มให้ตรงส่วนที่ตรงกับเตา เตาไฟฟ้า 2 หัว และฮูดดูดควัน Teka
ซิงค์หลุมเดียวของ Teka มีที่พักจานด้านข้าง
พื้นห้องโซนครัวปูแกรนิตโต้ 40×40 ซม. ส่วนโซนพักผ่อนปูด้วยลามิเนต 8 มม.
ส่วนพักผ่อนใช้งานร่วมกันทั้งห้องนอนและห้องนั่งเล่น ไม่มีการแบ่งส่วนห้องนอนเนื่องจากเป็นแบบห้องสตูดิโอ ซึ่งห้องแบบนี้ข้อดีคือทำให้ห้องเปิดโล่ง ดูกว้าง ติดตั้งเครื่องปรับอากาศเพียงเครื่องเดียวก็พอแล้ว แต่จะขาดความเป็นสัดส่วนและความเป็นส่วนตัว
ห้องนั่งเล่นวางโซฟาและชั้นวางทีวี ระยะดูทีวีราวๆ 2-3 เมตร
โซฟาตัว L ขนาดใหญ่ ตามที่ได้บอกไปข้างต้นแล้วว่ารูปแบบเฟอร์นิเจอร์นั้นจะแตกต่างกันในแต่ละยูนิต เพราะเป็นคอนโดรูปแบบ Resale หรือคอนโดมือสองครับ
ชั้นวางทีวีแบบลอยตัวทรงเตี้ย มีข้อดีคือทำความสะอาดง่าย ไม่มีมุมสูงด้านบนที่ยากต่อการทำความสะอาด หรืออาจจะบิวท์ใหม่เป็นชั้นวางทีวีทรงสูงติดเพดานคล้ายกับการแบ่งส่วนเป็นห้องนอนไปเลยก็ได้ครับ
ด้านนอกของห้องนั่งเล่นมีระเบียง
กรอบประตูบานเลื่อนอลูมิเนียมสีธรรมชาติ พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิค 30×30 ซม.
ราวกันตกและระแนงเหล็กทาสีขาวซ่อนคอมแอร์ ด้านในอาจจะเพิ่มราวเหล็กสำหรับตากผ้าได้
ชั้นวางทีวีทำหน้าที่เป็นตัวแบ่งโซนไปโดยปริยาย
ส่วนของห้องนอนวางเตียงขนาด 5 ฟุต เหลือทางเดินรอบเตียงผ่านเข้าออกรอบๆได้สบาย
ด้านซ้ายของเตียงคือทางเข้าห้องน้ำ
ทางเข้าห้องน้ำปกติแล้วจะเปิดโล่ง แต่ทางเจ้าของห้องเดิมได้ทำการบิวท์เป็นแนวกำแพงขึ้นมาเพื่อให้ใช้งานเป็นโซน walk-in closet
ผ่าน walk-in closet เข้าไป ตรงกับประตูทางเข้าห้องน้ำด้านใน
ตู้เสื้อผ้าด้านซ้าย เปิดโล่งแบบไม่มีบานปิดประตู
ตู้เสื้อผ้าทางขวาก็เช่นกัน
เข้าไปด้านในห้องน้ำ
ภาพรวมภายในห้องน้ำ พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิค แบ่งสัดส่วนการใช้งานระหว่างโซนแห้งและโซนเปียก
ตรงกลางเป็นเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าหินแกรนิต มีช่องเก็บของ 2 ช่อง
อ่างล้างหน้าทรงเหลี่ยมของ Cotto
ด้านขวาวางโถสุขภัณฑ์ ด้านบนติดตั้งพัดลมดูดอากาศ
โถสุขภัณฑ์ของ Cotto พื้นที่ใช้งานขนาดกำลังพอเหมาะ แต่อาจดูแคบไปหน่อยสำหรับคนตัวใหญ่ มีสายชำระและที่แขวนทิชชู่พร้อมใช้งาน
ด้านซ้ายเป็นโซนเปียกอาบน้ำ ติดตั้งฉากอาบน้ำกระจก Temper
ราวแขวนฝักบัว ด้านข้างเจาะช่องสำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำได้เล็กน้อย
ต่อไปเป็นแบบห้อง 1 Bedroom ขนาด 55 ตร.ม. พื้นที่ส่วนแรกเป็นโซน Pantry ถัดเข้าไปเป็นโซนนั่งรับประทานอาหารและห้องนั่งเล่น ด้านนอกสุดมีระเบียง บริเวณทางเดินกลางห้องใช้สำหรับไปยังห้องนอน ระหว่างทางมีห้องเก็บของอยู่ฝั่งด้านในและห้องน้ำอยู่ฝั่งด้านนอก ซึ่งแปลนแบบที่มีห้องน้ำอยู่ด้านนอกมีข้อได้เปรียบในเรื่องของการลดความอับชื้นและเรื่องแสงสว่าง
เข้าไปดูด้านในห้องของจริงกันครับ
เปิดประตูเข้ามาส่วนแรกเจอกับโซน Pantry เปิดโล่งเข้าไปด้านในเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่น พื้นห้องส่วนนี้ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ เพดานสูง 2.7 เมตร ผนังแาบเรียบทาสีขาว โคมไฟดาวน์ไลท์
เคาน์เตอร์ครัวได้เป็นมาตรฐานเหมือนกับห้องเมื่อสักครู่ ท็อปครัวหินแกรนิต เตาไฟฟ้าฮูดและซิงค์ของ Teka ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้านั้นไม่สามารถคอนเฟิร์มได้เนื่องจากในแต่ละยูนิตต่างกันครับ
มองย้อนกลับไปยังประตูทางเข้าห้อง
ขยับเข้าไปด้านในที่เป็นโซนนั่งเล่นกันต่อ
พื้นที่ระหว่างโซนนั่งเล่นและครัว วางโต๊ะรับประทานอาหารสำหรับ 4 ที่นั่ง
ห้องนั่งเล่นโปร่งสบายเนื่องจากติดกับระเบียงห้องด้านนอก วางเฟอร์นิเจอร์พื้นฐานได้แก่โซฟา, โต๊ะกลาง, ชั้นวางทีวี และโต๊ะวางโคมไฟ
พื้นที่ระเบียงประมาณ 2.1 x 1.2 เมตร ปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ไม่รวมพื้นที่เก็บคอมแอร์
คอมแอร์ซ่อนอยู่ด้านหลังระแนงเหล็ก สามารถเปิดปิดได้
มองย้อนกลับเข้าไปภายในห้อง
ทางเดินกลางห้อง สุดทางเดินเป็นห้องนอน ทางด้านขวาเป็นห้องน้ำและทางซ้ายคือห้องเก็บของ
แวะเข้าไปดูห้องน้ำทางด้านขวากันก่อน
ห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิค 60×60 ซม. ส่วนผนังกรุด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ด้วยตำแหน่งของห้องน้ำที่อยู่ตำแหน่งด้านนอกมีหน้าต่างรับแสงรวมถึงสามารถเปิดปิดระบายอากาศได้
อ่างล้างหน้าทรงเหลี่ยมว่างบนเคาน์เตอร์แกรนิต
โถสุขภัณฑ์วางในตำแหน่งที่มีระยะใช้งานกว้างนั่งสบาย
ห้องอาบน้ำติดตั้งฉากกระจก Temper
ฝักบัวอาบน้ำ ด้านข้างเจาะช่องวางอุปกรณ์อาบน้ำได้เล็กน้อย
สำหรับห้องเก็บของนั้นไม่ค่อยเรียบร้อยนัก ผมจึงขอข้ามไปชมห้องนอนกันต่อเลยครับ
พื้นห้องระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องนอน
ห้องนอนจะเปลี่ยนมาปูพื้นด้วยลามิเนต 8 มม. วางเตียงขนาด 5 ฟุต
ด้วยพื้นที่ที่มีขนาดค่อนข้างกว้าง สามารถอัพขนาดเตียงเป็นเตียง 6 ฟุตได้สบายๆ
ปลายเตียงวางชั้นวางทีวีแล้วยังเดินเข้าออกได้สะดวก
หน้าต่างห้องเปิดได้แบบบานกระทุ้งจำนวน 2 บานซ้ายและขวาสุด ตรงกลางจะเป็นกระจกบานฟิกซ์ แต่ผมไม่สามารถเปิดให้ชมได้พอดีว่ารางผ้าม่านมันชำรุดครับ
มองย้อนกลับเข้าไปด้านในห้อง อีกด้านมีพื้นที่ใช้ประโยชน์ได้พอสมควร
ตรงนี้วางโซฟาและและตู้เสื้อผ้า อาจจะปรับเปลี่ยนทำเป็นมุมทำงานแทนแล้วแต่ไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย
สุดท้ายเป็นแบบห้อง 2 Bedrooms ขนาด 89 ตร.ม. 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ แปลนห้องแบ่งพื้นที่เป็น 3 โซนใหญ่ๆ ได้แก้โซน Living ที่ประกอบด้วยห้องนั่งเล่นและ Pantry โซนที่ 2 เป็นโซนห้องนอนหลักมีห้องน้ำในตัว และโซนสุดท้ายคือโซนห้องนอนรองที่มีทางเข้าออกเชื่อมต่อกับห้องน้ำส่วนกลางได้
เข้าไปชมห้องของจริงกันครับ
เปิดประตูเข้ามาส่วนแรกเจอกับโซน Living พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ เพดานห้องสูง 2.7 เมตร
โคมไฟปกติให้เป็นดาวน์ไลท์ แต่สำหรับห้องนี้ตกแต่งให้มีการดรอปฝ้า ซ่อนรางไฟ
โซน Living แบ่งเป็นพื้นที่นั่งเล่นและห้องครัวแบบเปิด
โต๊ะทานข้าวขนาด 6 ที่นั่ง ตกแต่งโคมไฟระย้าเพิ่มความสว่างไสวให้อาหารน่ารับประทาน
ห้องนั่งเล่นวางโซฟาและชั้นวางทีวี มีระยะดูทีวีกว่า 3-4 เมตร
โซฟาหนังสีดำรูปแบบตัว L พร้อมโต๊ะกลางกระจกดีไซน์แปลกตา
ชั้นวางทีวีบิวท์อินติดผนัง
ด้านนอกมีระเบียง ประตูระเบียงกรอบอลูมิเนียมสีธรรมชาติ
หน้าต่างกรอบอลูมิเนียมสีธรรมชาติเช่นกัน เปิดปิดได้แบบบานกระทุ้ง 1 ช่องทางขวา
พื้นที่ใช้งานระเบียง ประมาณ 2.0 x 1.2 เมตร
คอมเพรสเซอร์แอร์ 3 ตัวแขวนซ่อนอยู่หลังระแนงเหล็กด้านใน
ห้องที่เราเข้ามาชมอยู่ ณ ขณะนี้ ตั้งอยู่ที่ชั้น 40 ซึ่งเป็นชั้นบนสุดของโครงการ วิวที่ได้จึงออกมาเป็นแบบนี้ครับ
ย้อนกลับมาดูโซนครัวกันต่อ
เคาน์เตอร์ครัวรูปแบบตัว U วัสดุพื้นฐานให้ท็อปครัวเป็นหินแกรนิต บานปิดไม้
เตาไฟฟ้าเพิ่มเป็น 4 หัวพร้อมฮูดดูดควันของ Teka ทั้งเซต
อ่างล้างหน้าหลุมคู่ พร้อมที่พักจานด้านข้าง
พื้นที่ยืนทำครัวด้านใน ใช้งานพร้อมกัน 2 คนได้สบายๆ
ด้านข้างเว้นช่องสำหรับวางตู้เย็น และมีห้องสำหรับวางเครื่องซักผ้า
ห้องวางเครื่องซักผ้าต่อท่อน้ำดีท่อน้ำทิ้งเรียบร้อย
กลับมาที่ทางเดินกลางห้องเพื่อเข้าไปชมส่วนพักผ่อนคือห้องนอนอีก 2 ห้อง
ประตูด้านซ้ายคือห้องนอนหลัก ห้องตรงกลางคือห้องนอนรอง และทางขวาคือห้องน้ำส่วนกลาง
เข้ามาดูในส่วนของห้องนอนรองกันก่อน พื้นห้องนอนปูด้วยลามิเนต 8 มม. ปกติแล้วผนังห้องจะฉาบผนังเรียบสีขาว ห้องนี้วางเตียงขนาด 3.5 ฟุตเอาไว้ แต่หากจัดวางตำแหน่งใหม่ สามารถเพิ่มเป็นเตียง 5 ฟุตได้สบายๆ
บริเวณหัวเตียงมีกระจกเข้ามุม เปิดรับวิวได้พอสมควร เปิดปิดได้แบบบานกระทุ้ง 1 ช่อง
ตรงมุมห้องนี้บิลท์อินเป็นชั้นวางของ แต่ตามตำแหน่งแล้วน่าจะเหมาะสำหรับบิวท์หรือวางเป็นตู้เสื้อผ้ามากกว่าเนื่องจากมุมนี้อยู่ใกล้กับทางเข้าห้องน้ำ
เข้าไปดูด้านในห้องน้ำกันต่อครับ
ห้องน้ำห้องนี้มีฟังก์ชั่นสามารถเข้าออกได้จาก 2 ทางคือจากทางเดินหลักและห้องนอนรองเมื่อสักครู่
ภาพรวมภายในห้องน้ำ แบ่งเป็นสัดส่วน
อ่างล้างหน้าทรงเหลี่ยมวางบนเคาน์เตอร์แกรนิต
โถสุขภัณฑ์แบบวันพีช พร้อมสายชำระและที่แขวนทิชชู่
ฉากอาบน้ำกกระจกบานสวิง
พื้นที่ยืนอาบน้ำรูปทรง 5 เหลี่ยม ลดระดับลงเล็กน้อยกันน้ำไหลมายังส่วนแห้ง
ฝักบัว ด้านข้างมีช่องสำหรับวางของได้เล็กน้อย
สุดท้ายเป็น Master Bedroom ครับ
ภายในห้องนอนแบ่งโซนการใช้งานเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกที่เปิดประตูเข้ามาเจอกับ walk-in closet ทางซ้ายเป็นห้องน้ำในตัวของห้องนอนหลักและทางขวาคือส่วนพักผ่อน
ผนังด้านหลังประตูห้อง บิลท์อินเป็นตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่เต็มผนัง แบบไม่มีบานปิด ดูสวยงามแต่ตู้แบบนี้มีข้อเสียคือเรื่องของฝุ่นครับ
พื้นห้องปูด้วยลามิเนต 8 มม.
เข้าไปดูในห้องน้ำกันก่อน
ทางด้านซ้ายวางอ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์
อ่างล้างหน้าทรงเหลี่ยมวางบนเคาน์เตอร์แกรนิต
โถสุขภัณฑ์พร้อมสายชำระและที่แขวนทิชชู่
อีกด้านจะเป็นโซนเปียก แบ่งส่วนด้วยฉากกระจก Temper ขนาดใหญ่
ภายในส่วนเปียกแบ่งการใช้งานเป็นแบบ Rain Shower และ Bathtub
อ่างอาบน้ำของ Cristina
ภายในห้องน้ำค่อนข้างสว่างเนื่องจากมีหน้าต่าง สามารถเปิดปิดแบบบานกระทุ้งได้ทั้ง 2 บาน เพื่อระบายอากาศรระบายความชื้น
เดินผ่าน walk-in closet เข้าไปชมภายในส่วนพักผ่อน
การผ่านเข้าออกนั้นไม่มีประตูแต่จะเป็นช่องทางเดินแบบในภาพ
ห้องนอนวางฐานเตียงขนาดใหญ่บุนวมสีดำ
อีกด้านของห้องวางโซฟาเข้ามุม ที่จริงแล้วพื้นที่ดังกล่าวอาจจะปรับเปลี่ยนเป็นมุมอ่านหนังสือหรือมุมทำงานได้ตามความประสงค์ เนื่องจากมีพื้นที่ใช้สอยเหลืออีกเยอะพอสมควร
แผ่นผนังทางด้านนี้ปกติแล้วจะเป็นผนังสีขาวฉาบเรียบ ใช้ติดตั้งทีวีแบบแขวน หรืออาจจะวางไซด์บอร์ดหรือจะบิวท์อินเป็นชั้นวางทีวีเต็มผนังเลยก็ได้ เพราะพื้นที่มีเหลือเฝือ
::: สรุปรายการวัสดุ และสิ่งที่โครงการให้ (ม.ค. 60) :::
วัสดุโดยรวม
เฟอร์นิเจอร์
ห้องน้ำ และสุขาภิบาล
– ฝ้าเพดานสูง 2.7 เมตร
– รายละเอียด Spec อาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นรุ่นที่เทียบเท่า
::: ราคา ::: (ม.ค. 2560)
แบบห้อง Studio ขนาด 38 – 42 ตร.ม. :
แบบห้อง 1 Bedroom ขนาด 49 – 59 ตร.ม. :
แบบห้อง 2 Bedrooms ขนาด 83.2 – 90.7 ตร.ม. :
แบบห้อง 3 Bedrooms ขนาด 106 – 156 ตร.ม. :
*หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อได้ที่สำนักงานขายตามที่อยู่และเบอร์ติดต่อด้านล่างครับ*
::: บทสรุปโครงการ :::
– ทำเลโครงการ Villa Sathorn เป็นโครงการที่ตั้งอยู่ในเขตฝั่งธนบุรี ติดถนนใหญ่กรุงธนบุรีโดยตั้งอยู่ในช่วงที่ใกล้กับสะพานตากสิน ช่องทางสำคัญที่ใช้ในการข้ามฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเข้าสู่ตัวเมืองพระนครไปยังย่านธุรกิจสาทร-สีลม โดยหลังจากที่มีแนวรถไฟฟ้า BTS ช่วงที่ต่อขยายมาจากสถานีสะพานตากสินไปจนถึงบางหว้า ส่งผลให้ย่านดังกล่าวโดยเฉพาะ 2 ข้างทางที่เกาะตามแนวรถไฟฟ้านั้นมีโครงการผุดขึ้นเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะโครงการรูปแบบคอนโด High-Rise ทำเลตรงนี้จึงถือว่าเป็นทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจ เพราะหากเป็นโครงการที่อยู่บนเส้นสาทรเลย จะมีราคาต่อตร.ม.ที่สูงมาก แต่ในขณะที่ทำเลกรุงธนบุรีเองมีราคาต่อตร.ม. ที่ถูกกว่า แต่ยังคงสามารถเข้าถึงใจกลางเมืองได้อย่างสะดวกและมีปัจจัยส่งเสริมอย่าง BTS นั่นเองจึงทำให้คอนโดย่านนี้ กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากทั้งจากชาวไทยและชาวต่างประเทศ
เรื่องความอุดมสมบูรณ์ สองข้างทางมีร้านอาหารมากมายแต่อาจจะไกลไปหน่อยสำหรับระยะเดินด้วยเท้า ใกล้สุดเห็นจะเป็น Max Valu ที่อยู่ตรงข้ามโครงการบริเวณใต้คอนโด Ideo Mobi สาทร ที่พอหาซื้อได้ทั้งอาหารกล่องพร้อมทานและวัตถุดิบนำมาประกอบอาหารเอง ส่วนห้างมีทั้งห้างน้อยใหญ่ตั้งแต่ระดับคอมมูนิตี้มอลล์, Supermarket, Hypermarket ไปจนถึงห้างครบวงจร หรือรูปแบบท้องถิ่นที่เป็นตลาดสดก็มี เรื่องการเข้าถึงยังคงสามารถเข้าถึงได้ง่ายแต่ต้องพึ่งพารถส่วนตัวหรือรถสาธารณะในการไปใช้งานในรัศมีเดินทาง 1 – 5 กม. โดยหากใช้รถไฟฟ้าตัวเลือกที่สะดวกจะมี The Mall ท่าพระ ที่สถานีตลาดพลู และโรบินสัน บางรัก ที่สถานีสะพานตากสิน ระยะทางแค่ 1-3 สถานีเท่านั้นเอง
– การเดินทางด้วยรถส่วนตัว จุดแข็งคือเรื่องการเข้าเมืองไปทางฝั่งสาทรด้วยสะพานตากสิน เดินทางต่อยอดไปย่านธุรกิจได้อย่างสะดวกสบายทั้งสีลม, นราธิวาส, พระราม 4 และมุ่งตรงต่อไปผ่านสวนลุมเพื่อเข้าสู่สุขุมวิทได้เลย ในขณะที่ช่วงต้นของถนนสาทรมีทางด่วนศรีรัชให้ใช้งานได้ทั้งฝั่งขาเข้าและขาออกจุดขึ้นลงอยู่ในระยะที่เข้าถึงสะดวกห่างจากโครงการราวๆ 2 กม. เท่านั้น ในส่วนของฝั่งขาออกถนนกรุงธนบุรีจะไปเชื่อมต่อกับถนนราชพฤกษ์ ระหว่างทางมีจุดตัดกับถนนตากสินและถนนรัชดา-ท่าพระ เพื่อเชื่อมต่อไปยังย่านต่างๆของฝั่งธนได้สะดวกทั้ง ดาวคะนอง, พระราม 2, เพชรเกษม หรือข้ามฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาอีกจุดด้วยสะพานพระปกเกล้าหรือสะพานพุทธไปยังโซนวังบูรพา-เยาวราช
– การเดินทางด้วยรถสาธารณะ มีให้เลือกใช้ครบครันและสะดวก โดยทั้งหมดทั้งมวลนั้นสามารถเรียกหาได้ที่หน้าโครงการเลย เริ่มตั้งแต่รถไฟฟ้า BTS สถานีกรุงธนบุรีที่มีระยะห่างจากสถานีแค่ 50 เมตร ระหว่างทางมีทั้งป้ายรถประจำทาง, วินมอไซค์, รถกระป๊อ และแท๊กซี่ที่จะจอดรอรับผู้โดยสารอยู่บริเวณเชิงบันไดรถไฟฟ้า
– การออกแบบโครงการและวัสดุ Villa Sathorn เป็นโครงการ High-Rise สูง 40 ชั้น จำนวนยูนิตพักอาศัยจำนวน 636 ยูนิต บนที่ดินประมาณ 4 ไร่เศษ โดยใช้โทนสีขาว-ส้ม ดูโดดเด่นและสังเกตเห็นได้ง่าย
ห้องพักอาศัยมีให้เลือกเป็นจำนวนมากรวมๆแล้ว มีมากกว่า 10 แบบ ตั้งแต่แบบ Studio, 1 Bedroom , 2 Bedrooms ไปจนถึง 3 Bedrooms ขนาดเริ่มต้นที่ 38 ตร.ม. ถึง 156 ตร.ม. วัสดุที่ทางโครงการให้มาในส่วนของอุปกรณ์พื้นฐานได้แก่ ชุดเคาน์เตอร์ครัวครบเซตประกอบด้วย เตาไฟฟ้า, เครื่องดูดควันและซิงค์ของ Teka ทั้งหมด และชุดสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ Cotto โดยเสริมในส่วนของฉากอาบน้ำให้แบ่งพื้นที่ส่วนแห้ง-เปียกชัดเจนในทุก Layout หรือของวัสดุเพิ่มเติมหรือเฟอร์นิเจอร์ในส่วนอื่นนั้น เนื่องจากโครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่ Sold Out ไปแล้ว แต่ยังคงมีการขายในรูปแบบ Resales หรือปล่อยเช่า เพราะฉะนั้นในส่วนของเฟอร์นิเจอร์และการบิวท์อินที่มีเพิ่มเติมเข้ามานั้นจะแตกต่างกันไปตามแต่ละยูนิต
– สิ่งอำนวยความสะดวก ทางโครงการจัด Facilities แบ่งออกเป็น 2 จุด จุดแรกอยู่ที่ชั้น 1 ของโครงการประกอบด้วย โถง Lobby เพดานสูงโปร่ง Double Volume ดูโปร่งสบายโอโถ่งหน้าต่างทรงสูงเต็มผนังใกล้ชิดธรรมชาติ, สระว่ายน้ำขนาด 30×8 เมตร ระบบเกลือ แยกสระเด็กพร้อมสไลเดอร์, ห้องฟิตเนส, ห้องปิงปอง และห้องซาวน่า สำหรับสวนสาธารณะจะอยู่ที่ชั้น 4 ของอาคาร เป็นสวนขนาดใหญ่รูปแบบเล่นระดับ ปูพื้นสนามด้วยหญ้าจริงตกแต่งด้วยต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาและไม้พุ่มเสริมความสวยงามสบายตา ลิฟต์โดยสารแบ่งออกเป็น 2 โถงลิฟต์ โถงละ 3 ตัวรวมเป็น 6 ตัวแยกลิฟต์ขนของใช้งานร่วมกัน 1 ตัว ลานจอดรถชั้น 1-4 จอดได้ 40% รวมซ้อนคันแล้ว ระบบรักษาความปลอดภัยตามมาตรฐาน Key Card Access มีรปภ. และ CCTV 24,.
::: คะแนน :::
ทำเลที่ตั้งโครงการ | 8.0 | ทำเลฝั่งธนฯ ใกล้ตัวเมือง ความอุดมสมบูรณ์สูง |
การเดินทางใช้รถ | 8.0 | เข้าออกเมืองสะดวกด้วยสะพานตากสินข้ามฝั่งสู่ใจกลางย่านธุรกิจสาทร-สีลม |
การเดินทางไม่ใช้รถ | 8.5 | ใกล้รถไฟฟ้า BTS กรุงธนบุรีเพียงไม่กี่ก้าว ตัวเลือกอื่นอย่างรถประจำทางหรือแท๊กซี่ เรียกหาใช้งานสะดวก |
ห้องและวัสดุ | 7.5 | แบบห้องมีให้เลือกหลากหลาย วัสดุเกรดมาตรฐาน |
สิ่งอำนวยความสะดวก | 7.5 | ครบครันทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนส ซาวน่าและสวนสาธารณะ |
ความคุ้มค่ากับราคา | 7.5 | เหมาะสำหรับคนที่นิยมใช้ทั้งรถส่วนตัวและรถไฟฟ้า เดินทางสะดวก |
คะแนนรวมเฉลี่ย | 7.83 | ดี |
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Tel. : 02-344-6666 หรือ 02-344-6699
Website : http://www.tcc-land.co.th/residence-sathorn.html
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณครับ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวครับ
แสดงความคิดเห็น