EP.259 รีวิว คอนโด วาลเด้น สุขุมวิท 39 Walden Sukhumvit 39
Written by : Nin Yanin Phueksoongnoen
สวัสดีค่ะผู้อ่านชาว Condonayoo ที่รักทุกคน วันนี้เราจะพามาชมโครงการ Walden สุขุมวิท 39 จาก Habitat Group กันค่ะ ตัวโครงการอยู่ใน ซอยพร้อมมิตร ซอยสุขุมวิท 39 หรือ ซอยสุขุมวิท 49/1 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กทม. ใกล้กับ รถไฟฟ้า BTS สถานีพร้อมพงษ์ เพียง 850 เมตร เดินทางสะดวกใกล้ ถนนสุขุมวิท, ทางพิเศษศรีรัช และ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร ใกล้แหล่งช้อปปิ้ง Piman 49, 49 Terrace, Nihommura Mall, EM District รวมถึงใกล้ย่านทองหล่อและเอกมัย
โครงการ Walden Sukhumvit 39 เป็น Luxury Condominium แบบ Low Rise สูง 8 ชั้น มี 1 อาคาร เป็นส่วนตัวด้วยจำนวนเพียง 116 ยูนิต บนเนื้อที่ประมาณ 0-3-22 ไร่ ชูคอนเซ็ปต์การออกแบบในรูปแบบ Luxury Design มอบความเป็นส่วนตัว พร้อมสร้างสรรค์พื้นที่เชื่อมโยงธรรมชาติให้ผู้อยู่อาศัยใกล้ชิดกับธรรมชาติในใจกลางเมือง ต้นไม้สีเขียวให้ความร่มรื่นทั้งพื้นที่ Indoor&Outdoor และพื้นที่ส่วนกลาง
ประกอบด้วยห้องชุดแบบ 1 ห้องนอน,แบบ 2 ห้องนอน และแบบลอฟท์ การ์เด้นท์ 2 ห้องนอน 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้นที่ 31.91 – 60.53 ตร.ม. มีดีไซน์โปร่งสบาย รวมถึงพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่และมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่สามารถปรับได้ตามไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย อีกทั้งการตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ทันสมัยจากแบรนด์ชั้นนำ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มการก่อสร้างในช่วงไตรมาส 3 ปี 2562 และก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมเข้าอยู่ประมาณไตรมาส 2 ปี 2564 ค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวก ภายในโครงการมีมาให้อย่างครบครันครบทุกความต้องการ ไม่ว่าจะเป็น ล็อบบี้, ห้องออกกำลังกาย พร้อมด้วย Rooftop Facilities ขนาดใหญ่ อาทิ สระว่ายน้ำสำหรับผู้ใหญ่และเด็ก, จากุซซี่, ออนเซน พร้อมสเปซสำหรับกิจกรรมของทุกคนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นมุมบาร์บีคิว สวนหย่อม และสนามเด็กเล่นที่รายล้อมด้วยต้นไม้ มอบความผ่อนคลายและเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศสบายๆ ใจกลางเมือง และนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อที่อยู่อาศัยอย่าง ที่จอดรถอัตโนมัติ ซึ่งช่วยประหยัดเวลาในการหาที่จอดรถ และบริการ “Walden Privilege” แท็บเล็ตอัจฉริยะ ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการจับจ่ายของใช้ในซุปเปอร์มาร์เก็ตให้ส่งตรงถึงหน้าประตูบ้าน รวมไปถึงบริการแม่บ้านทำความสะอาด สั่งอาหาร และบริการชำระบิลต่าง ๆ ได้ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัสอีกด้วย ห้องของโครงการตกแต่งแบบ Fully Furnished พร้อมเข้าอยู่ ในราคาเริ่มต้นที่ 5.9 ล้านบาท
ส่วนรายละเอียดอื่นๆจะเป็นอย่างไร อ่านต่อด้านล่างได้เลยค่ะ
ลงทะเบียนเพื่อรับส่วนลดถึง 500,000 บาท และ Iphone XS* คลิก http://www.habitatgroup.co.th/
| ชื่อโครงการ | วาลเด้น สุขุมวิท 39 Walden Sukhumvit 39 |
| เจ้าของโครงการ | บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป จำกัด / Habitat Group |
| เนื้อที่ทั้งหมด | 0-3-22 ไร่ |
| จำนวนตึก | 1 อาคาร |
| จำนวนชั้น | 8 ชั้น |
| จำนวนห้อง | 116 ยูนิต |
| ลักษณะห้องและขนาดห้อง |
|
| ที่จอดรถทั้งหมด | Auto Parking 49% |
| จำนวนลิฟต์ | 2 ตัว |
| โซน | เขตวัฒนา |
| ขนส่งสาธารณะ |
|
| รถโดยสารที่ผ่าน | n/a |
| ที่ตั้ง | ซอยสุขุมวิท 39 / ซอยสุขุมวิท 49/1 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. |
| กำหนดการ | เริ่มการก่อสร้างในช่วงไตรมาส 3 ปี 2562 |
| ปีที่สร้างเสร็จ | ก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมเข้าอยู่ประมาณไตรมาส 2 ปี 2564 |
| ราคา | เริ่มต้น 5.9 ล้านบาท* (ตค. 61) |
| ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม | เริ่มต้น 182,000 บาท/ตร.ม. (ตค. 61) |
| ค่าส่วนกลางและกองทุน |
|
| สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
ศาสนสถานและอื่นๆ
|
| สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
| จุดเด่นของโครงการ | Walden Sukhumvit 39 จาก Habitat Group คอนโด Low-Rise ระดับ Luxury เพื่อการอยู่อาศัยและการลงทุน บนทำเลใจกลางเมือง ใกล้รถไฟฟ้า BTS พร้อมพงษ์ มูลค่าโครงการ 950 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 5.9 ล้านบาท* |
:::: ที่ตั้งโครงการ ::::
ซอยสุขุมวิท 39 / ซอยสุขุมวิท 49/1 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม.
พิกัด : 13.733123, 100.575192
แผนที่จากทางโครงการ
ทำเลที่ตั้ง โครงการ Walden สุขุมวิท 39 ตั้งอยู่ในซอยพร้อมมิตรซึ่งตั้งอยู่ระหว่างซอยสุขุมวิท 39 และซอยสุขุมวิท 49/1 เป็นทำเลในย่านพร้อมพงษ์ที่ครองใจทั้งชาวไทยและชาวญี่ปุ่น อยู่ใกล้ BTS พร้อมพงษ์ในระยะ 850 เมตร ทำเลนี้นับว่าเป็นหนึ่งใน CBD ที่สำคัญและเป็นย่านที่อยู่อาศัยระดับ Hi-end โดดเด่นและขึ้นชื่อเรื่องไลฟ์สไตล์คนเมืองที่ฮอตเป็นอันดับต้นๆ ในกรุงเทพฯ มาแต่ไหนแต่ไรแล้วค่ะ จุดเด่นที่ทำให้ทำเลนี้เป็นทำเลศักยภาพก็คือ ความคล่องตัวในการใช้ชีวิตเพราะเป็นทำเลที่สามารถเดินทางได้สะดวก มีตัวเลือกในการเดินทางที่หลากหลาย
ใกล้ห้างหรูอย่าง The EmDistrict, ใกล้แหล่งของการสังสรรค์และเข้าสังคมที่ขึ้นชื่อเรื่องร้านอาหารหรูชิคๆ เก๋ๆ, สถานบันเทิงที่มีชื่อ และ Community Mall อีกทั้งยังเป็นทำเลทองของย่านธุรกิจ เพราะเป็นอีกหนึ่งศูนย์รวมของพวก Office Building นอกจากนี้ยังเป็นย่านที่อยู่อาศัยยอดนิยมของทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ที่ดินในย่านนี้จึงมีราคาสูงและก็ยังเป็นที่สนใจของนักลงทุนอย่างมาก
การเดินทางด้วยรถยนต์ ตัวโครงการอยู่ระหว่างซอยสุขุมวิท 39 และซอยสุขุมวิท 49/1 ซึ่งเป็นซอยที่มีทางลัดเลาะสามารถใช้เลี่ยงการจราจรได้เป็นอย่างดี โดยสามารถทะลุไปออกได้ทั้งเส้นสุขุมวิท, เพชรบุรี, อโศกมนตรี, ทองหล่อ และเชื่อมไปยังเอกมัยและปรีดี พนมยงค์ได้ง่าย ถ้าต้องการเข้าเมืองทางถนนพระราม 4 ก็จะมีซอยสุขุมวิท 24, 36, 40 และซอยอารีย์ฝั่งตรงข้าม ที่สามารถใช้เชื่อมไปออกพระราม 4 ได้ ส่วนซอยสุขุมวิท 42 ก็สามารถใช้เชื่อมจากถนนพระราม 4 กลับเข้ามายังถนนสุขุมวิทได้ค่ะ
ที่มากไปกว่านั้นก็คือ ตัวโครงการยังใกล้จุดขึ้นลงทางพิเศษฉลองรัช, ทางพิเศษศรีรัช และ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร ทั้งขาเข้าและออกเมืองอีกด้วย จะเห็นว่าจากโครงการนั้นสามารถเลือกใช้เส้นทางได้หลากหลาย ทั้งจากถนนสุขุมวิทไปทางสยาม, ถนนเพชรบุรีไปทางพญาไท หรือถนนพระราม 4 ไปทางสาทร – สีลม ก็ได้ทั้งนั้น ถึงแม้ว่าถนนโดยรอบจะเป็นถนนที่รถติด แต่ทุกเส้นพอจะมีทางลัดเอาไว้ให้พอลัดเลาะเพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรบางช่วงได้อยู่บ้างค่ะ
แต่ที่ควรระวังก็คือภายในซอยสุขุมวิท 39 จะมีทาง One Way ในบางช่วงค่ะ ถ้ามาจากทางฝั่งถนนสุขุมวิทต้องเลี้ยวซ้ายเข้าซอยพร้อมจิต แล้วจะต้องเลี้ยวขวาอีก 2 ครั้งตามซอยสวัสดีและเลี้ยวซ้ายเข้าซอยสุขุมวิท 38/1 จึงจะสามารถไปออกถนนเพชรบุรีได้ นอกจากนั้นยังมีเส้นทางลัดอื่นๆในซอยเช่น ซอยพร้อมศรีและซอยพร้อมมิตรที่ลัดเลาะทะลุไปออกได้ตั้งแต่ อโศก, ประสานมิตร, พร้อมพงษ์, ทองหล่อ, เอกมัย โดยไม่ต้องผ่านถนนใหญ่สุขุมวิทเลยค่ะ
ทางด่วน จากตัวโครงการจะอยู่ใกล้กับจุดขึ้นทางด่วนถึง 3 จุดด้วยกัน จุดแรกก็คือทางพิเศษศรีรัชตรงด่านเก็บเงินรามคำแหงค่ะ วิ่งไปได้ทั้งทางปากเกร็ด – ชลบุรี และสามารถเชื่อมต่อไปยังทางพิเศษฉลองรัชเพื่อไปทางรามอินทรา – วัชรพลได้
จุดที่ 2 คือทางพิเศษเฉลิมมหานคร สามารถใช้เชื่อมต่อไปยังดอนเมืองโทลล์เวย์ไปถึงดอนเมือง – รังสิตได้
ส่วนจุดขึ้นทางพิเศษเฉลิมมหานครอีกจุดนึงสามารถใช้ออกเมืองไปทางพระราม 2 จากถนนสุขุมวิทไปถนนพระราม 4 วิ่งผ่านถนนกล้วยน้ำไทเข้าถนนอาจณรงค์เพื่อขึ้นทางด่วนค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์ ย่านนี้โดดเด่นในเรื่องของความอุดมสมบูรณ์, ร้านอาหารหรูชื่อดัง, Community Mall และสถานที่ Hang out ในตอนกลางคืนอยู่แล้ว ใกล้กับตัวโครงการในระยะเดินเพียง 200 เมตรก็จะมี The 49 Terrace และ Piman 49 เป็นศูนย์การค้าเล็กๆ ที่ช่วยชูโรงภายในซอย เดินเลยไปไม่ไกลก็จะมีทั้ง Villa Market, รพ.สมิติเวช เชื่อมกับซอยทองหล่อ 13 มี Nihonmura Mall แหล่งรวมร้านอาหารญี่ปุ่น, J Avenue ศูนย์ไลฟ์สไตล์ที่แรกในประเทศไทย มีซูเปอร์มาร์เก็ต ธนาคาร คลินิกความงาม Trendy Café และร้านอาหารนานาชาติชั้นนำมากมายให้เลือกและ The Commons ภายในมีร้านอาหารดีๆ ถึง 4 โซน ได้แก่ Market Village Play Yard และ Top Yard
ออกมาที่เส้นสุขุมวิทในระยะใกล้ๆ ก็ไม่พ้น The EmDistrict ทั้ง Emquatier กับ Emporium ซึ่งในอนาคตก็จะมี Emsphere อยู่ฝั่งเดียวกับ Emporium ติดกับสวนเบญจสิริอีกด้วยค่ะ นั่งไปสถานีเดียวลงอโศกก็ถึง Terminal 21 และนั่งไป 2 สถานีลงเอกมัยก็มีศูนย์การค้าอย่าง Gateway เอกมัย ตกแต่งเอาใจคอญี่ปุ่น
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ การเดินทางด้วยรถสาธารณะก็นับว่าสะดวกสบายมากเพราะภายในซอยสามารถเรียกรถแท็กซี่ได้ง่าย อีกทั้งยังมีคิววินมอเตอร์ไซค์วิ่งผ่านอยู่ตลอด และจากตัวโครงการก็สามารถเดินไปถึงรถไฟฟ้า BTS สถานีพร้อมพงษ์ได้ภายใน 10 นาทีค่ะ ทางโครงการจะมี Shuttle Service บริการไปส่งถึงสถานีรถไฟฟ้าเลย และถ้าเรานั่งไปถึง Terminal 21 ลงที่ สถานีอโศก จะเป็นสถานี Interchange กับ MRT สถานีสุขุมวิท ค่ะ ในอนาคตจะมี รถไฟฟ้าสายสีเทา วิ่งมาจากวัชรพลผ่านถนนประดิษฐ์มนูธรรมเส้นทองหล่อมา Interchange ที่ สถานีทองหล่อ อีกด้วย
จากบริเวณหน้าโครงการเดินออกจากซอยพร้อมมิตรมาทางซอยสุขุมวิท 39 เพียง 850 เมตรก็จะถึงทางขึ้นรถไฟฟ้าสถานีพร้อมพงษ์แล้วค่ะ ตรงนี้คือทางออกที่ 3 นะ
:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo มีภาพการเดินทางไปสู่ตัวโครงการโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวมาฝากกันค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก
ถนนสุขุมวิท > ซอยสุขุมวิท 39 > ซอยพร้อมมิตร > Walden สุขุมวิท 39
วันนี้เราจะเริ่มต้นการเดินทางจากถนนสุขุมวิทบริเวณ BTS อโศก ที่ฝั่งซ้ายมือของเราก็คือ Terminal 21
เลยตัวสถานี BTS อโศกมาเล็กน้อยจะถึงแยกอโศกค่ะ ฝั่งซ้ายมือคือตึก Interchange 21
ขับเลยแยกอโศกมาไม่นานเราก็มาถึง BTS พร้อมพงษ์แล้ว บริเวณนี้ก็คือ The EmDistrict นั่นเอง ฝั่งซ้ายมือของเราก็คือ The EmQuatier ฝั่งขวามือคือ The Emporium ซึ่งในอนาคตก็จะมี Emsphere มาเปิดเพิ่มอีกค่ะ
จากนั้นให้เราชิดซ้ายแล้วเลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 39
จากถนนสุขุมวิทเลี้ยวเข้าไปในซอยสุขุมวิท 39 ประมาณ 450 เมตรแล้วเลี้ยวขวาเข้าซอยพร้อมมิตรอีก 400 เมตรก็จะถึงตัวโครงการแล้วค่ะ
ตรงเข้าไปภายในซอยสุขุมวิท 39 เป็นถนนซอยขนาด 2 เลนที่ค่อนข้างกว้าง ภาพบรรยากาศช่วงต้นซอยจะเป็นคอนโดมิเนียมระดับ Hi-end ค่ะ
จากปากซอยสุขุมวิท 39 เข้ามา 450 เมตรให้เลี้ยวขวาเข้าซอยพร้อมมิตร
ภายในซอยพร้อมมิตรจะมีบรรยกาศของบ้านพักอาศัยส่วนตัวดั้งเดิมและคอนโดมิเนียมขึ้นอยู่เป็นช่วงๆ ซอยนี้จะแคบหน่อยค่ะเวลาเดินต้องระวัง
จากปากซอยพร้อมมิตรตรงเข้าไป 400 เมตรก็จะเห็นตัวโครงการอยู่ทางด้านขวามือของเราแล้วค่ะ
ซึ่งตัวโครงการจะอยู่ติดกับทั้งซอยพร้อมมิตรและซอยสุขุมวิท 49/1 ที่ดินจะอยู่ตรงหัวมุมพอดีค่ะ
ส่วนสำนักงานขายของโครงการจะอยู่ในซอยสุขุมวิท 23 เข้ามาจากถนนสุขุมวิทประมาณ 600 เมตรตั้งอยู่ข้างๆ กับสำนักงานขายของ Walden Asoke ค่ะ
ส่วนที่จอดรถสำหรับลูกค้าจะถึงก่อนสำนักงานขายประมาณ 80 เมตร พอจอดรถแล้วก็จะมีบริการ Shuttle Service ไปส่งที่หน้าสำนักงานขายเลยค่ะ
สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ
สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ
ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
ศาสนสถานและอื่นๆ
:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::
บริบทโดยรอบโครงการเป็นชุมชนที่อยู่อาศัยและคอนโดมิเนียมสูง โดยที่ดินของโครงการจะอยู่ติดถนนซอยพร้อมมิตรและสุขุมวิท 49/1 ทั้ง 2 ฝั่งเพราะเป็นแปลงมุมค่ะ
ทิศเหนือ ติดกับ ถนนซอยพร้อมมิตร ฝั่งตรงข้ามเป็นคอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น และหมู่บ้านพร้อมมิตร วิลล่า ทิศใต้ ติดกับ ทาวน์โฮมสูง 3 – 5 ชั้น ทิศตะวันออก ติดกับ ซอยสุขุมวิท 49/1 และเป็นทางเข้าหลักโครงการ ฝั่งตรงข้ามเป็นบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น ทิศตะวันตก ติดกับ คอนโดมิเนียมสูง 15 ชั้น
ตัวโครงการจะเป็นที่ดินแปลงมุมตั้งอยู่ติดซอยพร้อมมิตรและซอยสุขุมวิท 49/1 แบบนี้ค่ะ
มองไปที่ฝั่งตรงข้ามกับตัวโครงการตรงหัวมุมก็คือหมู่บ้านพร้อมมิตร วิลล่า
เดี๋ยวเราจะเดินไปสำรวจบริบทโดยรอบโครงการกันเลยค่ะว่าจะมีบรรยากาศเป็นอย่างไร แต่ตอนนี้ฝนเพิ่งจะตกไปพื้นเลยจะดูเปียกหน่อยนะคะ เริ่มจากฝั่งซอยพร้อมมิตรกันก่อน
ติดกับตัวโครงการเลยก็คือ DH Grand Tower สูง 15 ชั้นค่ะ
ข้างๆ กันคือร้าน Party Store วันฮาโลวีนก็ใกล้เข้ามาแล้วทางร้านคงเตรียมหัวฟักทองเอาไว้ขายแล้ว
และ H Sukhumvit 43 ที่สูงถึง 32 ชั้นค่ะ
ส่วนฝั่งตรงข้ามก็คือพร้อมมิตร สวีทสูง 8 ชั้น
ถัดจากส่วนนี้ไปยังช่วงต้นๆ ซอยก็จะเป็นบรรยากาศของบ้านเดี่ยวดั้งเดิมของคนในย่านนี้ค่ะ
คราวนี้เรามาเดินดูบรรยากาศภายในซอยสุขุมวิท 49/1 กันบ้าง
ภาพบรรยากาศภายในซอยสุขุมวิท 49/1 ก็จะได้บรรยากาศของบ้านพักอาศัยดั้งเดิมของย่านนี้ค่ะ มีทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม
ฝั่งด้านหน้าทางเข้าตัวโครงการจะเป็นชุมชนบ้านพักอาศัย มีร้านค้าอยู่ด้านหน้าด้วยขายพวกอาหารตามสั่งค่ะ
พื้นที่ที่ติดกับตัวโครงการเลยจะเป็นทาวน์โฮมสูง 3 – 5 ชั้น และยาวไปตลอดทั้งซอย
จากซอยสุขุมวิท 49/1 เมื่อสักครู่เราเลี้ยวซ้ายไปทางซอยสุขุมวิท 49 ที่สามารถไปทะลุกับซอยทองหล่อได้
มองไปทางฝั่งซ้ายมือก่อนออกสู่ซอยสุขุมวิท 49 ค่ะ เราจะเจอ The 49 Terrace เป็นแหล่งความอุดมสมบูรณ์หลักๆ ในซอยนี้เลย ตำแหน่งจะอยู่ตรงหัวมุมพอดี
ส่วนฝั่งทางขวามือคือตึก Freedom House ภายในอาคารก็มีร้านอาหาร, ร้านคาเฟ่ และร้านค้าอยู่หลายร้าน
คราวนี้เราตรงออกมาที่ซอยสุขุมวิท 49 กันแล้ว เลี้ยวมาทางซ้ายจะสามารถไปทะลุกับซอยทองหล่อ 13 ได้
ส่วนฝั่งตรงข้ามกับ The 49 Terrace จะมีแหล่งความอุดมสมบูรณ์อีกแห่งนึง นั่นก็คือ Piman 49 ค่ะ
เราจะเดินตรงไปเรื่อยๆ เพื่อสำรวจทำเลในซอยนี้กันต่ออีกหน่อย
ไม่ไกลจาก The 49 Terrace และ Piman 49 ก็มี Villa Market ด้วยค่ะ สามารถมาซื้อหาของใช้และอาหารสดได้ที่นี่ นอกจากนี้บริเวณด้านหน้าของ Villa Market เองก็จะมีร้านขายอาหารอยู่อีก 2 – 3 ร้านด้วยกัน ทั้งอาหารอีสาน, อาหารใต้ รวมถึงร้านขายผัดกระเพรา อาหารสิ้นคิดประจำชาติเราเอง
ติดกับ Villa Market คือ World Star Academy
ด้านหน้าโรงเรียนมีร้านขาย Burger ต้องมาลองทานกันดูค่ะ
ไม่ไกลกันก็มีร้านอาหารไทยน่ามาลองกันอยู่นะ
รพ.สมิติเวชก็อยู่ไม่ไกลค่ะ เจ็บป่วยเป็นอะไรก็มาง่ายไม่ต้องกังวล รพ.จะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับซอยทองหล่อ 13 ภายในมีทั้ง Nihonmura Mall และ SeenSpace ทะลุออกเส้นทองหล่อได้เลย
คราวนี้เรากลับมาที่สำนักงานขายในซอยสุขุมวิท 23 กันค่ะ
ภาพบรรยากาศภายในสำนักงานขายค่ะ ภายในจะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายประจำอยู่และคอยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวโครงการ เราสามารถขอเข้าชมห้องตัวอย่างที่อยู่ทางด้านหลังได้เลย
:::: ตัวโครงการ ::::
โครงการ Walden Sukhumvit 39 เป็น Luxury Condominium แบบ Low Rise สูง 8 ชั้น มี 1 อาคาร เป็นส่วนตัวด้วยจำนวนเพียง 116 ยูนิต บนเนื้อที่ประมาณ 0-3-22 ไร่ ชูคอนเซ็ปต์การออกแบบในรูปแบบ Luxury Design มอบความเป็นส่วนตัว พร้อมสร้างสรรค์พื้นที่เชื่อมโยงธรรมชาติให้ผู้อยู่อาศัยใกล้ชิดกับธรรมชาติในใจกลางเมือง ต้นไม้สีเขียวให้ความร่มรื่นทั้งพื้นที่ Indoor&Outdoor และพื้นที่ส่วนกลาง
ประกอบด้วยห้องชุดแบบ 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 31.91 – 45.77 ตารางเมตร จำนวน 95 ยูนิต, แบบ 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 53.25 – 59.44 ตารางเมตร จำนวน 14 ยูนิต และแบบลอฟท์ การ์เด้นท์ 2 ห้องนอน 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 60.53 ตารางเมตร จำนวน 7 ยูนิต มีดีไซน์โปร่งสบาย รวมถึงพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่และมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่สามารถปรับได้ตามไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย อีกทั้งการตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ทันสมัยจากแบรนด์ชั้นนำแบบ Fully Furnished พร้อมเข้าอยู่
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการมีมาให้อย่างครบครันครบทุกความต้องการ ไม่ว่าจะเป็น ล็อบบี้, ห้องออกกำลังกาย พร้อมด้วย Rooftop Facilities ขนาดใหญ่ อาทิ สระว่ายน้ำสำหรับผู้ใหญ่และเด็ก, จากุซซี่, ออนเซน พร้อมสเปซสำหรับกิจกรรมของทุกคนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นมุมบาร์บีคิว สวนหย่อม และสนามเด็กเล่นที่รายล้อมด้วยต้นไม้ มอบความผ่อนคลายและเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศสบายๆ ใจกลางเมือง และนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อที่อยู่อาศัยอย่าง ที่จอดรถอัตโนมัติ ซึ่งช่วยประหยัดเวลาในการหาที่จอดรถ และบริการ “Walden Privilege” แท็บเล็ตอัจฉริยะ ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการจับจ่ายของใช้ในซุปเปอร์มาร์เก็ตให้ส่งตรงถึงหน้าประตูบ้าน รวมไปถึงบริการแม่บ้านทำความสะอาด สั่งอาหาร และบริการชำระบิลต่างๆ ได้ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัสอีกด้วย
ภาพบรรยากาศจำลองของตัวโครงการ จะเห็นว่าทางโครงการพยายามออกแบบให้ตัวอาคารมีหน้าตา, สีสัน และสัดส่วนความสูงกลมกลืนกับพื้นที่โดยรอบ ไม่ทำลายบรรยากาศความเป็นชุมชน จะเห็นว่าตัวอาคารมีการนำระแนงเหล็กมาใช้เพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกบ้าน อีกทั้งยังได้ประโยชน์ทางด้านความสวยงามของอาคาร ซึ่งจะวางสลับกับกระถางต้นไม้ทำให้ตัวอาคารเองดูเหมือนกับต้นไม้ขนาดใหญ่เลยค่ะ
มาดูภาพรวมของโครงการจากโมเดลกันค่ะ เริ่มจากฝั่งทิศตะวันออก ติดกับ ซอยสุขุมวิท 49/1 เป็นด้านหน้าโครงการ
โมเดลฝั่งทิศใต้ ด้านข้างโครงการติดกับทาวน์โฮมสูง 3 – 5 ชั้น
โมเดลฝั่งทิศตะวันตก ด้านหลังโครงการติดกับ DH Grand Tower สูง 15 ชั้น
และโมเดลฝั่งทิศเหนือ ด้านข้างโครงการติดกับซอยพร้อมมิตรค่ะ
มาดูแปลนอาคารกันค่ะ ชั้น 1 ทางเข้าโครงการมีแค่ทางเดียวฝั่งซอยสุขุมวิท 49/1 จึงทำให้ง่ายต่อการดูแลรักษาความปลอดภัย พอขับรถเลี้ยวเข้าไปด้านในโครงการแล้วจะเป็นที่จอดรถแบบ Auto Parking ทั้งหมด มีให้ 49% และจะมีที่จอดรถสำรองสำหรับ Visitor ให้ 1 คันที่บริเวณฝั้งซ้ายของทางเข้า ซึ่งหากลูกบ้านมีเพื่อนหรือแขกมาเยี่ยมกันหลายคนก็อาจต้องหาที่จอดภายในซอยเอาเองค่ะ
ส่วนทางเข้าตัวอาคารคือที่ตำแหน่งหมายเลข 2 เป็น Outdoor Recreation Area with Landscape จะเป็นทางเข้าสู่โถง Lobby โดยจุดนี้จะต้องใช้ Key card ในการเปิดประตูค่ะ โดยจะมีประตูอีกจุดหนึ่งจากที่จอดรถใต้อาคารด้วย ภายใน Lobby ออกแบบให้พื้นลดระดับลงจากพื้นถนนลงมาประมาณ 1.9 เมตรและล้อมรอบด้วยลานน้ำตก สร้างความเป็นส่วนตัวอย่างแท้จริงเพราะมุมมองออกไปภายนอกอาคารจะไม่เห็นรถวิ่งผ่านเลยเพราะระดับสายตาอยู่ต่ำกว่า สามารถใช้พื้นที่นี้ในการนั่งพักผ่อนหย่อนใจ, นั่งทำงาน หรือนั่งคอยเวลาเรียกรถได้นะ เพราะเป็นจุดที่สามารถเดินไปรับรถหรือเก็บรถแล้วจะเดินเข้าอาคารได้สะดวก ซึ่งจะใช้เวลาเรียกรถประมาณ 2 – 3 นาทีต่อคันเท่านั้นค่ะ
เนื่องจากพื้นที่โครงการมีการลดระดับลงจากพื้นถนนจึงมีการออกแบบและการจัดการเรื่องการระบายน้ำไว้เป็นอย่างดี โดยจะมีเครื่องสูบน้ำ 4 ตัวอยู่ที่ชั้น Ground Floor และมีเครื่อง Generator อยู่ที่ชั้น 8 ซึ่งจะหมดปัญหาเรื่องเครื่องสูบน้ำไม่ทำงานเนื่องจากน้ำท่วมเครื่อง Generator ที่อยู่ชั้น 1
จาก Lobby จะมีประตูหลังอีก 1 จุดที่สามารถเชื่อมต่อไปยังพื้นที่สวนพักผ่อนหลังโครงการและห้อง Fitness โดยออกแบบให้เป็นผนังกระจกโดยรอบ สามารถ Take View สวนรอบโครงการได้ ส่วนโถงลิฟต์จะอยู่ตรงกลางอาคารภายในมีลิฟท์ 2 ตัวใช้ระบบล็อคชั้น ล้อมรอบด้วยพักอาศัยเป็นห้องแบบ Loft Garden ทั้งหมด 7 ห้องซึ่งจะไม่มีโถงกั้นอีกชั้นให้ อาจจะเสียความเป็นส่วนตัวไปเล็กน้อยเมื่อเทียบกับชั้นอื่นค่ะ
ชั้น 1 ผังนี้แสดงชั้นลอยของห้องพักอาศัยชั้น 1 ที่เป็นห้องพักแบบ Loft Garden จะไม่มีประตูเปิดออกไปภายนอกอีกชั้นหนึ่งได้เหมือนห้อง Duplex นะคะ วัดจากพื้นถึงฝ้าเพดานตรงส่วนที่เป็น Void ทั้งหมดจะมีความสูงถึง 4.3 เมตรเลยค่ะ
ดูที่โมเดลของโครงการฝั่งซอยสุขุมวิท 49/1 ฝั่งซ้ายคือทางเข้าที่จอดรถระบบ Auto Parking และบริเวณตรงกลางข้างๆ ป้ายโครงการคือบันไดทางเดินลงสู่ Outdoor Recreation Area ที่เชื่อมสู่ Lobby ได้
ภาพจำลองบรรยากาศโครงการในมุมเดียวกัน
ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณ Outdoor Recreation ซึ่งจะเป็นบันไดลด Step ลงมาจากถนนหน้าโครงการประมาณ 1.9 เมตร ทางโครงการตกแต่งพื้นและบันไดด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนสีขาวสวยงามรับกับน้ำตกขั้นบันได กรุเสาด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนสีดำ เป็นทางที่ช่วยปรับอารมณ์ช่วยให้ผ่อนคลายเสียงน้ำไหลและ Landscape ที่สวยงามก่อนเดินเข้าสู่ตัวอาคารด้วยความรู้สึกที่สงบและเป็นสุข
ภาพบรรยากาศจำลองภายในโถง Lobby ด้านในตกแต่งด้วยโทนสีออกขาว – เทา – ดำ และตัดด้วยสีทองที่ช่วยสร้างความหรูหรา ด้วยฝ้าเพดานที่สูงถึง 4.3 เมตรจึงได้ความโปร่งโล่ง ใช้ผนังกระจกขนาดใหญ่มองออกไปเห็นสวนน้ำตกช่วยสร้างความผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี และระดับพื้นที่ลดลงมา 1.9 เมตรช่วยตัดโลกภายนอกที่วุ่นวายออกไปให้เหมือนได้พักผ่อนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติจริงๆ ภายในโถงจัดชุดโซฟาเอาไว้รับรองอยู่หลายชุด สามารถใช้เป็นจุดนัดพบ, นั่งพักคอย หรือเปลี่ยนบรรยากาศจากในห้องลงมานั่งทำงานตรงนี้ก็ได้
ดูที่โมเดลของโครงการฝั่งด้านหลังจะเป็นพื้นที่สวนพักผ่อนและ Fitness
ภาพจำลองบรรยากาศพื้นที่นั่งเล่นบริเวณสวนด้านหลังโครงการติดกับ Fitness เป็นอีกหนึ่งมุมส่วนตัวที่ลูกบ้านสามารถมาใช้นั่งเล่นพักผ่อนกันได้
ภาพจำลองบรรยากาศภายใน Fitness โดยใช้ผนังกระจกทั้งหมดเพื่อดึงวิวสวนเข้ามาภายในห้องเหมือนกำลังวิ่งออกกำลังอยู่ท่ามกลางป่าไม้
ชั้น 2 – 3, 6 – 7 ตั้งแต่ชั้น 2 เป็นต้นไปจะเป็นส่วนของ Residential Area ทั้งหมดค่ะ เป็นชั้นพักอาศัยแบบ Typical Floor Plan เห็น Core ของอาคารชัดเจน 2 ตำแหน่ง ฝั่งซ้ายเป็นโถงบันได ส่วนฝั่งขวาเป็นทั้งโถงบันไดและโถงลิฟท์ ภายในมีลิฟต์ 2 ตัว คิดเป็นอัตราส่วนลิฟต์ต่อห้องพักอาศัยทั้งโครงการอยู่ที่ 58 : 1 ซึ่งถือว่ามี Traffic การใช้ลิฟท์ที่ไม่สูงแล้ว เนื่องจากพื้นที่ตรงกลางอาคารถูกทำเป็น Atrium หลังคาอะคริลิคให้รับแสงธรรมชาติเข้ามาภายในอาคาร โครงการจึงมีโถงทางเดินเป็นแบบ Single Corridor ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นเพราะเปิดประตูออกมาจะไม่ชนกับห้องไหนเลย และจำนวนยูนิตสูงสุดต่อชั้นนั้นอยู่ที่ 16 ห้องถือว่าไม่สูงแล้ว
ชั้น 4 – 5 มีการวางผังไม่ต่างจากแปลนที่แล้วค่ะ แต่จะสังเกตว่าผังอาคารจะขยับตำแหน่งของกระถางต้นไม้ให้สลับกับแปลนที่แล้วเพื่อสร้างมิติและลูกเล่นให้กับตัวอาคาร
ชั้น 8 มีการวางผังไม่ต่างจากแปลนชั้นที่ 2 – 3 และ 6 – 7 แต่จะมีจำนวนยูนิตที่น้อยลงเหลือ 13 ยูนิต (ถูกใช้เป็นความลึกของสระว่ายน้ำที่ชั้น Rooftop) ซึ่งจะได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น และห้องทางทิศใต้จะเปลี่ยนจากห้อง One Bedroom Plus เป็นห้อง One Bedroom ที่มีระเบียงห้องที่กว้างมากขึ้น ซึ่งเหมาะมากๆ กับคนที่ชอบจัดสวนหย่อมของตัวเอง
ชั้น Rooftop เป็น Main Facilities ของโครงการ ซึ่งชั้นนี้จะแบ่งออกเป็น 3 โซนหลักๆ ด้วยกันคือ 1.โซนออกกำลังกายและเพื่อสุขภาพ ประกอบด้วย สระว่ายน้ำแยกสระเด็ก – สระผู้ใหญ่, พื้นที่นั่งพักผ่อนรอบๆ สระ, Onzen และ Jacuzzi มีการจัด Landscape อย่างสวยงามด้วยต้นไม้และน้ำตกดูเป็นธรรมชาติ 2.โซนครอบครัวหรือ Family Area ประกอบด้วยสนามเด็กเล่น และศาลานั่งพักผ่อนสำหรับผู้ปกครองที่มานั่งดูแลเด็กๆ และส่วนโซนสุดท้ายคือโซนนั่งเล่น – ชมวิว ประกอบด้วย เคาน์เตอร์บาร์อยู่รอบใต้ต้นไม้, ลาน BBQ และ Sky Terrace ให้ได้เดินขึ้นไปชมวิวกันอีกด้วย
ภาพโมเดลในมุมสูงเห็นพื้นที่ชั้น Rooftop ทั้งหมดที่แบ่งออกเป็นส่วนต่างๆ 3 โซนหลัก
ภาพจำลองบรรยากาศโดยรวมของส่วน Rooftop Facilities ประกอบด้วย 3 โซนหลักๆ คือ โซนออกกำลังกายและเพื่อสุขภาพ, โซนครอบครัวหรือ Family Area โซนสุดท้ายคือโซนนั่งเล่น – ชมวิว
ภาพโมเดลในมุมสูงเห็นพื้นที่ชั้น Rooftop ในโซนออกกำลังกาย
ภาพบรรยากาศจำลองโซนออกกำลังกายเพื่อสุขภาพเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 14 x 4.2 เมตร แยกสระเด็กและสระผู้ใหญ่ ภายในสระกรุด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนดูสวยงาม ข้างสระก็มี Day Bed เตรียมเอาไว้ให้สำหรับนอนอาบแดดหรือนอนพักผ่อน
ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณสระว่ายน้ำ มีพื้นที่ทั้งแบบ Semi – Outdoor และ Outdoor ล้อมรอบด้วย Landscape ที่สวยงาม
ภาพจำลองบรรยากาศบริเวณสนามเด็กเล่น มีม้าลื่นและผาจำลองให้ปีนป่ายขนาดย่อมๆ สร้างความแข็งแรงและพัฒนาการของขาและแขน
ภาพโมเดลในมุมสูงเห็นพื้นที่ชั้น Rooftop ในโซน BBQ
ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณลาน BBQ และ Sky Terrace สามารถใช้จัดปาร์ตี้เล็กๆ, นั่งทำงานอ่านหนังสือ หรือนั่งรับลมชมวิวคนเดียวเงียบๆ ก็ได้ โดยจัดที่นั่งเป็นขั้นบันไดสูงขึ้นมาให้สามารถชมวิวเมืองได้โดยรอบ
:::: แบบห้องของโครงการ ::::
ห้องของโครงการจะมีอยู่ด้วยกัน 3 แบบหลักๆ คือ
โดยโครงการขายห้องแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์มาครบพร้อมเข้าอยู่พร้อมเครื่องปรับอากาศ เราไปดูผังห้องด้วยกันเลยค่ะ
ห้อง 1 Bedroom Type A2-1 ขนาด 34.56 ตร.ม.
ห้อง 1 Bedroom Type A6 ขนาด 38.65 ตร.ม.
ห้อง 1 Bedroom Plus Type B1-1 ขนาด 40.06 ตร.ม.
ห้อง 1 Bedroom Plus Type B2 ขนาด 45.77 ตร.ม.
ห้อง 2 Bedroom Type C2 ขนาด 53.52 ตร.ม.
ห้อง 2 Bedroom Type C5 ขนาด 59.44 ตร.ม.
ห้อง Loft Garden Type G1 ขนาด 34.78 ตร.ม.
ห้อง Loft Garden Type G2 ขนาด 47.74 ตร.ม.
:::: ห้องตัวอย่าง ::::
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo จะพาไปชมห้องตัวอย่าง ห้อง 1 Bedroom Plus Type B1-1 ขนาด 40.06 ตร.ม. กันค่ะ ห้องขายแบบ Fully Furnished มาดูรายละเอียดแบบเจาะลึกของห้องกันเลย
นี่คือผังห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 40 ตร.ม.ที่เป็น Selling Point ของโครงการค่ะ เป็นห้องสำหรับครอบครัวขนาดตั้งแต่ 1 – 3 คน จัดแบ่งสัดส่วนภายในห้องได้เป็นอย่างดี พอเข้ามาในห้องจะเจอห้องครัวก่อนซึ่งเป็นครัวแบบเปิดเชื่อมกับพื้นที่ Common Area พื้นที่ของห้องนี้จะดูกว้างขวางเป็นพิเศษเพราะห้องอเนกประสงค์และห้องนอนจะกั้นส่วนจาก Common Area ด้วยประตูบานเลื่อนกระจกแบบ 3 ตอนและแบบ 6 ตอนซึ่งสามารถเลื่อนเปิดได้สุดและเชื่อมต่อให้กลายเป็นพื้นที่ห้องใหญ่ห้องเดียวได้ ส่วนห้องน้ำก็จะได้อ่างอาบน้ำมาด้วย (เพราะเป็นทำเลที่คนญี่ปุ่นมาเยอะกันค่อนข้างเยอะ)
เข้าไปดูภายในห้องตัวอย่างกันเลยค่ะ ประตูทางเข้าห้องจะเป็นประตูไม้อัดสักบานทึบปิดผิวลามิเนต
และติด Digital Door Lock ของ Yale มาให้เพื่อความปลอดภัยอีก 1 ชั้น
เมื่อเข้ามาภายในห้องจะสามารถเห็นลำดับฟังก์ชั่นภายในห้องตั้งแต่ห้องครัว, ส่วนรับประทานอาหาร, ห้องนั่งเล่น จนถึงห้องอเนกประสงค์ด้านในสุด ภาพรวมของห้องดูโปร่งโล่งไม่อึดอัด ส่วนฝั่งขวามือของห้องคือห้องนอนค่ะ จากมุมนี้เราจะยังไม่สามารถเห็นพื้นที่ภายในห้องได้แม้ว่าจะเปิดประตูบานเลื่อนเอาไว้จนสุด ถือว่าเป็นแปลนที่ออกแบบมาได้ดีทีเดียว
ส่วนฝ้าเพดานก็สูงถึง 2.5 เมตรเป็นฝ้าฉาบเรียบติดดวงโคมดาวน์ไลท์ให้ แต่ฝ้าตรงห้องครัวจะดรอปลงมาที่ 2.19 สำหรับงานระบบของแอร์ Conceal Type สำหรับ Common Area ส่วนในห้องนอนจะได้แอร์แบบ Wall Type ค่ะ
พื้นที่ส่วนแรกจากประตูทางเข้าห้องเป็นพื้นที่ครัว พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. เหมาะสมกับการเป็นพื้นห้องครัวเพราะน้ำไม่ซึมและสามารถเช็ดทำความสะอาดพวกคราบอาหารได้ง่าย
ครัวที่เราจะได้มาเป็นครัวรูป L Shape แบบนี้เลย เห็นผนังบางส่วนที่เคาน์เตอร์มีการติดตั้ง Splash Board ให้เรียบร้อยจึงสามารถเช็ดคราบและทำความสะอาดได้ง่าย
โดยมีพื้นที่ยืนประกอบอาหารกว้างประมาณ 0.85 เมตร ยังเป็นระยะที่ใช้งานได้สะดวก
Top เคาน์เตอร์ครัวเป็นหินเทียม Solid Surface สามารถทนความชื้นและความร้อนได้ดี ใช้เตาเซรามิคขนาด 2 หัวของ Gorenje นำเข้าจากเยอรมัน
และ Hood ของ Gorenje เช่นกันแบบดูดออกไปสู่ภายนอก
ส่วนอ่างล้างจานใช้ของ Teka พร้อมก๊อกน้ำทรงสูงใช้งานได้สะดวก
ที่ใต้เคาน์เตอร์จะมีพื้นที่วางเครื่องซักผ้าและมีช่องเก็บของเล็กๆ สำหรับเก็บของเพิ่มเติมให้ด้วย
ส่วนอีกฝั่งมีลิ้นชักเหมาะสำหรับเก็บมีดและช้อนส้อม หน้าบานตู้เป็น MDF ปิดผิวลามิเนตลายไม้ นอกจากนี้ทางโครงการยังให้ไมโครเวฟแบบฝังตู้ของ Gorenje มาด้วย
ปลายบานเปิดตู้ก็เฉือนมุม 45 องศาสามารถจับเปิดได้ง่าย บานเปิดเป็นแบบ Soft – closed เวลาปิดจึงไม่กระแทกเสียงดังแน่นอน
ส่วนชั้นลอยด้านบนเราจะได้เป็นหน้าบานกระจกเงาสีชาเก็บขอบด้วยเหล็ก ภายในสามารถเก็บของได้เยอะพอสมควร
ติดกันกับเคาน์เตอร์ครัวเป็นโต๊ะทานอาหารแบบ 2 ที่นั่ง หันหน้าไปทางครัวแบบนี้ค่ะ ซึ่งทางโครงการก็จะให้มาทั้งโต๊ะและเก้าอี้แบบนี้เลย ซึ่ง Top โต๊ะที่ได้นั้นใช้หินจริงด้วยค่ะ
นอกจากนี้ที่ผนังด้านข้างห้องครัวจะมีหน้าจอมอนิเตอร์ติดอยู่ เป็นระบบสั่งซื้อสินค้าที่สามารถสแกนบาร์โค้ดสินค้าที่ด้านล่างหน้าจอนี้แล้วสามารถชำระสินค้าโดยตัดเงินผ่านบัตรเครดิตได้เลย แล้วจึงค่อยรอรับสินค้าได้จากที่ด้านล่างค่ะ นอกจากนี้ยังสามารถจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ และโทรหานิติบุคคลได้ด้วย (นี่ไม่ใช่ระบบ Home Automation นะคะ)
เข้าสู่ส่วนพื้นที่นั่งเล่นพื้นจะปูด้วย Engineering Wood ซึ่งพื้นผิวด้านบนเป็นไม้จริงซึ่งมีความทนทานต่อรอยขีดข่วนและทนความชื้นได้ดีกว่าพื้นไม้ลามิเนต
ส่วนต่อมาเป็นห้องนั่งเล่น ซึ่งเราจะได้ชุดชั้นวางทีวี, โต๊ะกาแฟ และโซฟาตามแบบในห้องตัวอย่างเลย ผนังในห้องทั้งหมดเป็นผนังฉาบเรียบติด Wallpaper สีมาตรฐานของทางโครงการ
หน้าตาของโซฟาที่เราจะได้ขนาด 2 ที่นั่ง มีขนาดใหญ่นั่งได้สบาย
ชั้นวางทีวีรวมถึงโต๊ะกาแฟใช้ Top หินแท้สีดำเช่นเดียวกับโต๊ะทานอาหาร ติดตั้งระบบ Soft – closed มาให้เพื่อป้องกันการกระแทกพร้อมที่เปิดแบบกดแล้วกระเด้งทำให้สะดวกเวลาใช้งาน
ส่วนระยะดูทีวีกว้างประมาณ 1.8 เมตร สามารถใช้ทีวีขนาด 40 – 50 นิ้วได้เลย โดยเราสามารถเลือกจอขนาดใหญ่หน่อยไว้นอนดูทีวีในห้องนอนไปด้วยในตัวได้เลย
ด้านในสุดเป็นห้องอเนกประสงค์ที่กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนแบบ 3 ตอน ทำให้สามารถเปิดประตูออกได้กว้างถึง 1.45 เมตร เชื่อมต่อพื้นที่ทั้งสองส่วนทำให้ห้องดูกว้างมากขึ้น และยังดึงแสงธรรมชาติจากหน้าต่างเข้ามาภายในได้อีกด้วย ประตูใช้บานกรอบประตูเป็นอลูมิเนียมสีทอง ติดกระจกใสธรรมดาและไม่มีมือจับเปิดหรือตัวล็อค โดยติดรางเลื่อนแบบฝังฝ้าทำให้ไม่มีรางที่พื้นให้เดินสะดุดหรือเก็บฝุ่นยากต่อการทำความสะอาด
มือจับบานเลื่อนทำเป็นครีบแบบนี้แทนค่ะ
ขนาดห้องอเนกประสงค์กว้างประมาณ 2.3 x 2 เมตร ซึ่งกว้างมากพอที่จะสามารถทำห้องนี้ให้เป็นห้องนอนเล็กอีกห้องหนึ่งได้ พื้นห้องในส่วนนี้เปลี่ยนกลับมาเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้เพื่อรองรับสำหรับการปรับเปลี่ยนการใช้งานห้องที่หลากหลายไปตาม Lifestyle ของลูกบ้านแต่ละคน
ภายในห้องอเนกประสงค์นี้ทางโครงการจัดเป็นห้องทำงานและห้องนั่งเล่นไปด้วยในตัว หรือเราจะใช้จัดเป็นห้องนอนเล็กอีกห้องก็ทำได้ ซึ่งทั้งโต๊ะทำงานและโซฟาเบดนี้เราจะได้แถมมาแบบในห้องตัวอย่างเลย
ชุดโต๊ะทำงานที่ได้จะเป็น Top หินจริงสีดำเหมือนกัน ใต้โต๊ะมีลิ้นซ่อนอยู่และติดโช้คกันกระแทกมาให้แล้ว
และโซฟาเบดขนาด 3 ฟุตกำลังดีกับพื้นที่ห้อง
ภายในห้องนี้จะได้ชุดหน้าต่างจะเป็นบานกระจกทั้ง 2 ด้านแบบนี้ โดยที่ด้านขวาจะเป็นบาน Fixed ส่วนตรงกลางเป็นกระจกบานเลื่อนที่ช่วยทั้งเรื่องของแสงสว่างจากธรรมชาติและการถ่ายเทอากาศ
ซึ่งภายนอกจะมีระแนงเหล็กที่สามารถเปิดได้ถึง 90 องศาเพื่อเปิดรับวิว หรือปิดเพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้อยู่อาศัย นอกจากนี้ยังทำหน้าที่เป็น Facade ให้กับตัวอาคารด้วยค่ะ
ส่วนทางด้านขวาจะมีประตูกระจกเล็กๆ เพื่อเปิดออกไปที่ระเบียงได้ ประตูนี้มีความกว้างประมาณ 0.5 เมตร ยังสามารถเดินผ่านได้ค่ะ
ภาพมองย้อนกลับเข้าไปภายในส่วน Common Area
ต่อไปเป็นห้องนอนซึ่งกั้นด้วยประตูกระจกลอนบานเลื่อนเปิดคู่แบบ 6 ตอนแบบนี้ เมื่อเปิดออกจะเชื่อมต่อพื้นที่ห้องทำให้มีขนาดใหญ่และโปร่งโล่งมากขึ้น ซึ่งกระจกที่ได้จะเป็นกระจกลอนพรางสายตาช่วยให้เกิดความเป็นส่วนตัวได้ดี แต่ก็ยังโปร่งแสงจึงไม่ทำให้ห้องดูไม่ทึบ
กรอบประตูเป็นอลูมิเนียมสีทองเช่นเดียวกับส่วนของห้องอเนกประสงค์ แต่จะมีที่เปิดแบบเซาะร่องเพิ่มเข้ามาทำให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น ส่วนรางเลื่อนจะเป็นแบบฝังฝ้าเหมือนกันค่ะ
พื้นที่ปลายเตียงเมื่อปิดประตูกระจกบานเลื่อนแล้วจะมีพื้นที่ทางเดินเหลือประมาณ 30 ซม. สามารถเดินผ่านได้อยู่
ภายในห้องนอนค่อนข้างกว้างขวาง วางเตียงขนาด 6 ฟุต ไว้กลางห้องแบบนี้แล้วยังมีพื้นที่เหลือโดยรอบอีกเยอะให้ใช้งานได้สะดวก ซึ่งทั้งฐานเตียงและฟูกที่นอนทางโครงการก็แถมมาให้ด้วยนะคะ เรียกได้ว่าครบพร้อมอยู่เลยทีเดียว
พื้นที่ข้างเตียงทางซ้ายเหลือกว้างประมาณ 1 เมตร และเราจะได้โต๊ะข้างเตียงแบบนี้ทั้ง 2 ฝั่งเลย Top เป็นหินแท้สีดำ หน้าบานเป็นกระจกสีทอง 
ภาพจากปลายเตียงมองออกไปที่ห้องโถง จากบริเวณนี้ก็สามารถนอนดูทีวีได้
จากห้องนอนก็จะมีประตูบานเลื่อนเปิด 2 ตอนสามารถเปิดออกสู่ระเบียงห้องได้เช่นกันค่ะ
มือจับประตูแบบเซาะร่องมาตรฐาน
พื้นที่ระเบียงมีขนาดประมาณ 1.25 x 1.7 เมตร สามารถออกไปใช้งานได้ มีราวกันตกเป็นเหล็กธรรมดาสูง 90 ซม.
พื้นปูด้วยกระเบื้องขนาด 30 x 60 ซม. กั้นพื้นที่ส่วนนึงออกไปด้วยลูกกรงเหล็กเพื่อกันเป็นพื้นที่วาง Compressor และอย่างที่บอกว่าตามชั้นต่างๆ ของโครงการนี้จะมีการปลูกต้นไม้เอาไว้ด้วย โดยกระถางต้นไม้ตรงนี้จะไม่ได้นับเป็นพื้นที่ขายนะ แต่โครงการจะมีให้พร้อมกับต้นไม้ขนาดไม่ใหญ่มากนักแล้วจะยกให้ลูกบ้านห้องนั้นๆ ช่วยกันดูแล
ภาพมองย้อนกลับเข้ามาภายในห้องนอน
ตู้เสื้อผ้าทางโครงการจะ Built-in มาให้เป็นแบบนี้เลย หน้าบานเป็นกระจกใสสีดำพร้อมซ่อนไฟภายในตู้
ภายในมีลิ้นชักสามารถเก็บของได้ค่อนข้างเยอะ พร้อมที่เปิดตู้แบบแถบอลูมิเนียมทำให้สามารถใช้งานได้ง่ายมากขึ้น
ลิ้นชักเก็บของภายในตู้เสื้อผ้า
ส่วนมือจับทำเป็นครีบแบบนี้ค่ะ
เราเข้าไปดูภายในห้องน้ำกันต่อเลย
พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องลายหินธรรมชาติสีดำแบบนี้
ส่วนผนังก็กรุด้วยกระเบื้องเหมือนกันแต่เป็นคนละลายกันค่ะ พอเปิดเข้าไปภายในห้องจะเจออ่างล้างมืออยู่ตรงกลาง โถสุขภัณฑ์อยู่ทางฝั่งซ้าย และอ่างอาบน้ำอยู่ทางฝั่งขวา โดยสุขภัณฑ์ทั้งหมดจะใช้ของ Toto นะ
อ่างล้างหน้าเป็นของ Toto ขนาดกำลังดี มีตู้ด้านล่างซึ่งของจริงจะสามารถเปิดออกมาเพื่อเก็บของได้ และที่ด้านในจะติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนได้ด้วย เนื่องจากห้องน้ำที่นี่จะมีการเดินท่อน้ำร้อนแบบฝังผนังไว้ให้เรียบร้อยแล้ว ที่ด้านข้างอ่างล้างหน้าจะมีปลั๊กไฟแบบมีฝาครอบเพื่อป้องกันน้ำอยู่ด้วย ส่วนที่ใต้ตู้กระจกก็จะมีไฟซ่อนมาให้แบบนี้ พร้อมที่ขอบผนังสามารถวางของได้ยาวตลอดแนว
ติดตั้งมาพร้อมกับก๊อกน้ำล้างมือ
กระจกเงาจะได้บานใหญ่เต็มผนังแบบนี้ ด้านในสามารถเปิดออกมาเพื่อใส่ของได้พอสมควร ซึ่งของจริงจะมีชั้นสำหรับวางของอยู่ด้วย 2 – 3 ชั้นด้วยค่ะ
ทางด้านซ้ายเป็นโถสุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติ พร้อมติดสายชำระและที่แขวนกระดาษชำระมาให้พร้อมใช้งาน
รีโมทควบคุมฝารองนั่งอัจฉริยะ
ส่วนทางขวาเป็นอ่างอาบน้ำ ขนาดประมาณ 1.5 x 76 ซม. สามารถลงไปแช่ได้ทั้งตัว
ติดตั้งฝักบัวหัวพลาสติกสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ พร้อมก๊อกน้ำแบบก้านโยกสามารถปรับความแรงของสายน้ำและผสมอุณหภูมิน้ำได้
นอกจากนี้สวิตช์และปลั๊กไฟภายในห้องจะใช้ของ Panasonic ค่ะ
ลงทะเบียนเพื่อรับส่วนลดถึง 500,000 บาท และ Iphone XS* คลิก http://www.habitatgroup.co.th/
:::: สรุปรายการวัสดุ และสิ่งที่โครงการให้ (ตุลาคม 2561) ::::
วัสดุโดยรวม
ห้องน้ำ และสุขาภิบาล
งานไฟฟ้า
เฟอร์นิเจอร์
***รายละเอียด Spec ของวัสดุ อาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นรุ่นที่เทียบเท่า สามารถสอบถามที่โครงการเพิ่มเติมได้ค่ะ
:::: ราคา (ตุลาคม 2561) ::::
***ข้อมูลราคา และโปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
:::: สรุป ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ โครงการ Walden สุขุมวิท 39 เป็นทำเลที่ดินตรงหัวมุมระหว่างซอยพร้อมมิตรและซอยสุขุมวิท 49/1 เป็นทำเลในย่านพร้อมพงษ์ อยู่ใกล้ BTS พร้อมพงษ์ในระยะ 850 เมตร ทำเลนี้นับว่าเป็นหนึ่งใน CBD ที่สำคัญและเป็นย่านที่อยู่อาศัยระดับ Hi-end โดดเด่นและขึ้นชื่อเรื่องไลฟ์สไตล์คนเมืองในกรุงเทพฯ จุดเด่นที่ทำให้ทำเลนี้เป็นทำเลศักยภาพก็คือ ความคล่องตัวในการใช้ชีวิตเพราะเป็นทำเลที่สามารถเดินทางได้สะดวก มีตัวเลือกในการเดินทางที่หลากหลาย
ใกล้ห้างหรูอย่าง The EmDistrict, ใกล้แหล่งของการสังสรรค์และเข้าสังคมที่ขึ้นชื่อเรื่องร้านอาหารหรูชิคๆ เก๋ๆ, สถานบันเทิงที่มีชื่อ และ Community Mall อีกทั้งยังเป็นทำเลทองของย่านธุรกิจ เพราะเป็นอีกหนึ่งศูนย์รวมของพวก Office Building นอกจากนี้ยังเป็นย่านที่อยู่อาศัยยอดนิยมของทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ที่ดินในย่านนี้จึงมีราคาสูงและก็ยังเป็นที่สนใจของนักลงทุนอย่างมาก โครงการนี้จึงน่าสนใจสำหรับทั้งซื้อไว้อยู่เองหรือซื้อเอาไว้ลงทุน
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว ตัวโครงการอยู่ระหว่างซอยสุขุมวิท 39 และซอยสุขุมวิท 49/1 ซึ่งเป็นซอยที่มีทางลัดเลาะสามารถใช้เลี่ยงการจราจรได้เป็นอย่างดี โดยสามารถทะลุไปออกได้ทั้งเส้นสุขุมวิท, เพชรบุรี, อโศกมนตรี, ทองหล่อ และเชื่อมไปยังเอกมัยและปรีดี พนมยงค์ได้ง่าย ถ้าต้องการเข้าเมืองทางถนนพระราม 4 ก็จะมีซอยสุขุมวิท 24, 36, 40 และซอยอารีย์ฝั่งตรงข้าม ที่สามารถใช้เชื่อมไปออกพระราม 4 ได้ ส่วนซอยสุขุมวิท 42 ก็สามารถใช้เชื่อมจากถนนพระราม 4 กลับเข้ามายังถนนสุขุมวิทได้ค่ะ
ที่มากไปกว่านั้นก็คือ ตัวโครงการยังใกล้จุดขึ้นลงทางพิเศษฉลองรัช, ทางพิเศษศรีรัช และ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร ทั้งขาเข้าและออกเมืองอีกด้วย จะเห็นว่าจากโครงการนั้นสามารถเลือกใช้เส้นทางได้หลากหลาย ทั้งจากถนนสุขุมวิทไปทางสยาม, ถนนเพชรบุรีไปทางพญาไท หรือถนนพระราม 4 ไปทางสาทร – สีลม ก็ได้ทั้งนั้น ถึงแม้ว่าถนนโดยรอบจะเป็นถนนที่รถติด แต่ทุกเส้นพอจะมีทางลัดเอาไว้ให้พอลัดเลาะเพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรบางช่วงได้อยู่บ้างค่ะ
การเดินทางโดยรถสาธารณะ การเดินทางด้วยรถสาธารณะก็นับว่าสะดวกสบายมากเพราะภายในซอยสามารถเรียกรถแท็กซี่ได้ง่าย อีกทั้งยังมีคิววินมอเตอร์ไซค์วิ่งผ่านอยู่ตลอด และจากตัวโครงการก็สามารถเดินไปถึงรถไฟฟ้า BTS สถานีพร้อมพงษ์ได้ภายใน 10 นาทีค่ะ ทางโครงการจะมี Shuttle Service บริการไปส่งถึงสถานีรถไฟฟ้าเลย และถ้าเรานั่งไปถึง Terminal 21 ลงที่ สถานีอโศก จะเป็นสถานี Interchange กับ MRT สถานีสุขุมวิท ค่ะ ในอนาคตจะมี รถไฟฟ้าสายสีเทา วิ่งมาจากวัชรพลผ่านถนนประดิษฐ์มนูธรรมเส้นทองหล่อมา Interchange ที่ สถานีทองหล่อ อีกด้วย
การออกแบบโครงการ และวัสดุ โครงการ Walden Sukhumvit 39 เป็น Luxury Condominium แบบ Low Rise สูง 8 ชั้น มี 1 อาคาร เป็นส่วนตัวด้วยจำนวนเพียง 116 ยูนิต บนเนื้อที่ประมาณ 0-3-22 ไร่ ชูคอนเซ็ปต์การออกแบบในรูปแบบ Luxury Design มอบความเป็นส่วนตัว พร้อมสร้างสรรค์พื้นที่เชื่อมโยงธรรมชาติให้ผู้อยู่อาศัยใกล้ชิดกับธรรมชาติในใจกลางเมือง ต้นไม้สีเขียวให้ความร่มรื่นทั้งพื้นที่ Indoor&Outdoor และพื้นที่ส่วนกลาง
โครงการมีการออกแบบที่เข้าใจและอิงบริบทโดยรอบโครงการที่มีความเป็นย่านชุมชน ด้วยที่ดินเดิมมีต้นไม้อยู่เยอะจึงออกแบบให้ตัวโครงการกลมกลืนไปกับธรรมชาติ ใช้ระเบียงต้นไม้, น้ำ และระแนงทำให้ตัวโครงการดูสวยแต่ไม่โดดเด่นแข่งกับเพื่อนบ้าน และยก Main Facilities ขึ้นไปอยู่ที่ชั้นดาดฟ้า ส่วน Facilities ที่อยู่ชั้นล่างจะลดระดับจากพื้นถนนลงไป 1.9 เมตรและใช้วิวของลานน้ำตกและ Landscape แทนเพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวจากสภาพแวดล้อมภายนอก โดยมีการออกแบบและการจัดการเพื่อป้องกันน้ำท่วมเอาไว้เป็นอย่างดี ภายในอาคารใช้ Atrium เพื่อดึงแสงสว่างจากธรรมชาติเข้าสู่ภายในอาคาร ทำให้ได้โถงทางเดินในชั้นพักอาศัยแบบ Single Corridor ได้ความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น
ภายในโครงการมีห้องให้เลือกหลายแบบ ประกอบด้วยห้องชุดแบบ 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 31.91 – 45.77 ตารางเมตร จำนวน 95 ยูนิต, แบบ 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 53.25 – 59.44 ตารางเมตร จำนวน 14 ยูนิต และแบบลอฟท์ การ์เด้นท์ 2 ห้องนอน 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 60.53 ตารางเมตร จำนวน 7 ยูนิต มีดีไซน์โปร่งสบาย รวมถึงพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่และมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่สามารถปรับได้ตามไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย อีกทั้งการตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ทันสมัยจากแบรนด์ชั้นนำแบบ Fully Furnished พร้อมเข้าอยู่
วัสดุที่ได้มาภายในห้องก็ได้คุณภาพและสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นชุดครัว Gorenje จากเยอรมัน, สุขภัณฑ์แบรนด์ Top จากญี่ปุ่นอย่าง Toto, เฟอร์นิเจอร์ใช้ Top หินอ่อนสีดำหรูหรา พื้นห้องปูด้วย Engineering Wood ใช้ผิวไม้จริง ส่วนห้องครัวปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้เพื่อง่ายต่อการทำความสะอาด และห้องอเนกประสงค์ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้เช่นกัน เพื่อความเหมาะสมสำหรับฟังก์ชั่นในการใช้งานที่หลากหลาย และผนังฉาบเรียบและติดวอลล์เปเปอร์มาให้เรียบร้อยแล้วค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการมีมาให้อย่างครบครันครบทุกความต้องการ ไม่ว่าจะเป็น ล็อบบี้, ห้องออกกำลังกาย พร้อมด้วย Rooftop Facilities ขนาดใหญ่ ที่มีพื้นที่สำหรับกิจกรรมของทุกคนในครอบครัว มีอัตราส่วนลิฟต์ทั้งโครงการ 58 : 1 ซึ่งถือว่าไม่หนาแน่นแล้ว ภายในโครงการใช้ระบบ Auto Parking ทั้งหมดซึ่งช่วยประหยัดเวลาในการหาที่จอดรถ และบริการ “Walden Privilege” แท็บเล็ตอัจฉริยะ ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการจับจ่ายของใช้ในซุปเปอร์มาร์เก็ตให้ส่งตรงถึงหน้าประตูบ้าน รวมไปถึงบริการแม่บ้านทำความสะอาด สั่งอาหาร และบริการชำระบิลต่างๆ ได้ง่าย
:::: คะแนน ::::
| ทำเลที่ตั้งโครงการ | 8.2 | อยู่ในซอยพร้อมมิตรซึ่งตั้งอยู่ระหว่างซอยสุขุมวิท 39 และซอยสุขุมวิท 49/1 เป็นทำเลในย่านพร้อมพงษ์ ใกล้ BTS พร้อมพงษ์ |
| การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว | 7.7 | สามารถเข้า – ออกได้หลายเส้นทาง ล้อมรอบด้วยถนนใหญ่หลายเส้น ทำเลซอยลัดไปออกได้หลายเส้นทาง และใกล้ทางด่วน |
| การเดินทางโดยรถสาธารณะ | 8.0 | ใกล้ BTS สถานีพร้อมพงษ์ 850 เมตร มีรถสาธารณะวิ่งผ่านหน้าโครงการ และมีบริการ Shuttle Service ถึงสถานีพร้อมพงษ์ |
| บ้านและวัสดุ | 8.35 | ออกแบบดี เป็นส่วนตัว มีแบบห้องให้เลือกหลากหลาย ฟังก์ชันห้องลงตัว ใช้วัสดุมาตรฐานเหมาะกับราคาและการใช้งาน เป็น Fully Furnished พร้อมอยู่ |
| สิ่งอำนวยความสะดวก | 8.5 | ให้มาหลากหลายและสวยงามน่าใช้งานดี มีความเป็นส่วนตัว |
| ความคุ้มค่ากับราคา | 8.1 | โครงการเหมาะสำหรับครอบครัวขนาด 1 – 4 คน ชอบไลฟ์สไตล์ในตัวเมือง แต่ยังชอบบรรยากาศที่เป็นส่วนตัวไม่พลุกพล่าน เดินทางด้วยรถสาธารณะได้สะดวก |
| คะแนนรวมเฉลี่ย | 8.14 | ดีมาก |
:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::
TEL : +66 (0)63 424 8999
WEBSITE : http://www.habitatgroup.co.th/
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
แสดงความคิดเห็น